การตั้งเป้าหมายที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จในชีวิต
ถ้าเราตั้งเป้าหมายได้ดี จะเพิ่มโอกาสให้เราบรรลุเป้าหมายนั้นได้สูงขึ้นเยอะมาก
คนที่ประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนอื่น ก็เพราะเขาตั้งเป้าหมายเก่ง พวกเขารู้กลยุทธ์การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมกับตัวเอง ว่าการตั้งเป้าหมายแบบไหนจะบังคับให้พวกเขาลงมือทำ และบรรลุได้
ดังนั้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้ 8 กลยุทธ์ที่จะช่วยให้เราตั้งเป้าหมายให้สำเร็จ และไม่เลิกกลางคันกันครับ
ข้อมูลนี้ผมได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ Success: Why You Fail Where Others Succeed นะครับ
หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ
8 กลยุทธ์ตั้งเป้าหมายให้สำเร็จ และไม่เลิกกลางคัน!
เขียนลงบนกระดาษ

สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อต้องการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองคือ เขียนมันลงบนกระดาษ การเขียนเป้าหมายเพียงอย่างเดียวจะทำให้ความคิดของเราเป็นรูปธรรมมากขึ้นในทันที
มันจะช่วยย้ายเป้าหมายที่เพียงความนึกคิด และความฝันเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้
ซึ่งเมื่อเราได้เขียนเป้าหมายลงกระดาษแล้ว เราจะพบว่าเป้าหมายเหล่านั้นเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นจริงในชีวิตเรา เรารู้สึกสัมผัสมันได้ ใกล้ชิดกับมันมากขึ้น ส่งผลให้เรามีแรงบันดาลใจที่จะลงมือทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จขึ้นจริง
อย่างที่ Bran Tracy เคยได้พูดไว้ว่า “กุญแจสำคัญในการตั้งเป้าหมายคือให้คุณคิดบนกระดาษ ผู้คนที่ประสบความสำเร็จล้วนคิดด้วยปากกาในมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จทำไม่ได้”
พร้อมที่จะตั้งเป้าหมายแล้วหรือยังครับ?
หยิบกระดาษสักแผ่นและปากกาสักแท่ง แล้วจดเป้าหมายทั้งหมดที่ต้องการทำให้สำเร็จเลยครับ
เจาะจง
ในการตั้งเป้าหมาย ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของคนส่วนมากคือการตั้งเป้าหมายที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน
พวกเขาจะตั้งเป้าหมายว่า “ฉันอยากจะรวย”
คำถามคือ รวยยังไง รวยระดับไหน แบบไหนที่เรียกว่ารวย?
ถ้าเป้าหมายที่เราตั้งยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจน สมองจะไม่อนุญาตให้เราลงมือทำง่าย ๆ สมองต้องการความชัดเจน เช่น เปลี่ยนจาก “ฉันอยากรวย” ด้วยการเขียนลงบนกระดาษที่ชัดเจนเป็น “ฉันจะมีเงิน 10,000,000 ภายในวันที่ 31 ของปี 2025”
อย่างนี้จะชัดเจนกับสมอง มันจะเข้าใจว่า โอเค รวยคือ 10 ล้านบาท และต้องทำให้สำเร็จภายในวันที่ 31 ของปี 2025
เลือกเป้าหมายที่ท้าทาย

ควรเลือกเป้าหมายที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ท้าทาย และมีความกลัวแฝงอยู่ลึก ๆ ว่า จะทำสำเร็จได้หรือไม่
แต่ก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ท้าทายหรือยากจนเกินที่จะทำไม่ได้ เพราะเราจะสูญเสียแรงจูงใจในการลงมือทำมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อพบว่ามันยากเกินไป หรือเป็นไปไม่ได้
เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ 30 กิโล ภายใน 1 เดือน โอ้ ยากเกิน แค่คิดเราก็ท้อแล้ว ให้เปลี่ยนเป็น จะลดน้ำหนักให้ได้ 4 กิโล ภายใน 1 เดือน อย่างนี้จะน่าตื่นเต้นขึ้น มีโอกาสทำสำเร็จ แต่ก็ไม่ง่ายจนเกินไป
เขียนเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญ
หยิบปากกา ลงมือเขียนเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมเป้าหมายนี้จึงสำคัญกับเรา มันใช่สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ หรือเปล่า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ใช้เวลาหลายปีในการวิ่งไล่ตามเป้าหมายที่ไม่ทำให้เรามีความสุข
และอย่าคาดหวังว่าเมื่อเราบรรลุเป้าหมายแล้วถึงจะมีความสุข เป้าหมายที่ดีควรสร้างแรงบันดาลใจให้เรารู้สึกสนุกกับเส้นทางระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมายนั้นด้วย
“เมื่อมีเหตุผลที่แข็งแกร่งพอ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น” — Jim Rohn
เตรียมพร้อม
พยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรที่เอื้อสนับสนุนช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
เช่น หากเป้าหมายต้องการเป็นมังสวิรัติ ให้เตรียมรายการสูตรอาหารมังสวิรัติไว้ให้พร้อม เติมผักและผลไม้ในตู้เย็น เข้าร่วมสมาคมมังสวิรัติ
เล่าเป้าหมายให้คนอื่นฟัง

หากต้องการลดน้ำหนัก 10 กิโล ให้ประกาศต่อหน้าเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานหรือบอกทุกคนในครอบครัวเกี่ยวกับเป้าหมายของเรา การบอกเช่นนี้จะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้เราไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
แต่หากเรารู้สึกไม่มั่นใจพอที่จะเล่าเป้าหมายให้คนอื่นฟัง แสดงว่าเป้าหมายอาจจะยากเกินไปสำหรับเราในตอนนี้หรือไม่ก็มันไม่ใช่เป้าหมายที่เราต้องการบรรลุจริง ๆ
ดังนั้น ถ้าเป็นเช่นนี้ เราอาจจะต้องลดขนาดของเป้าหมายให้ดูง่ายขึ้น จนรู้สึกว่ากล้าที่จะเล่าเป้าหมายนี้ให้คนอื่นฟังได้
คาดการณ์
เวลาตั้งเป้าหมาย เรามักจะมองโลกแง่ดีมากเกินไปเกี่ยวกับความสามารถและเวลาที่จะใช้ในการบรรลุเป้าหมาย
ดังนั้น เพื่อป้องกันสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราต้องถามตัวเองตั้งแต่แรกว่า “มีเหตุการณ์อะไรบ้างที่จะสามารถเกิดขึ้นแล้วมาขัดขวางไม่ให้เราบรรลุเป้าหมายได้?”
ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค ความผิดพลาด ปัญหา ข้อจำกัดต่าง ๆ นานา
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ถ้าเป้าหมายคือลดน้ำหนักหรือเลิกบุหรี่ ก็ให้หลีกเลี่ยงสิ่งล่อใจ ระบุสถานการณ์ พื้นที่เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ เช่น ถ้ารู้ว่าในตู้เย็นมีของกินที่อร่อย ๆ ที่ทำให้อ้วน ก็ให้เอาสิ่งเหล่านี้ออกจากตู้เย็นไปให้หมด
Leave a Comment