ทำ 6 สิ่งนี้ก่อน 8 โมงเช้าทุกวัน แล้วจะประสบความสำเร็จ

“ความสำเร็จเริ่มต้นที่ตอนเช้า”

ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ใครสนใจ อย่าลืมไปติดตามกันได้นะครับ : )

ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ถ้าเพื่อน ๆ กดติดตาม ผมจะรู้สึกดีมากครับ

เราจะประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และมากยิ่งขึ้น ถ้าเราเพียงทำสิ่งนี้ “เปลี่ยนวิธีการตื่นนอน”

“การเปลี่ยนวิธีการตื่นนอนทุกเช้า สามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้” นี่คือวิธีที่คนที่ประสบความสำเร็จระดับสูงส่วนใหญ่ทำกัน

และในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงแนวคิดหนึ่งที่จะช่วยเป็นกรอบให้เราใช้ช่วงเวลาหลังตื่นนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ประสบความสำเร็จ พร้อมมีความสุขในชีวิตมากยิ่งขึ้น

แนวคิดที่ว่าก็คือว่า “Life S.A.V.E.R.S” ซึ่งถูกคิดโดย Hal Elrod นักเขียนหนังสือ Bestselling ชื่อดัง

Hal Elrod ใช้แนวคิดนี้เพียง 2 เดือน ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนในทันที สุขภาพทางการเงิน อารมณ์ และร่างกายของเขาดีขึ้นมาก เขามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หายจากอาการซึมเศร้า และเริ่มฝึกวิ่งอัลตร้ามาราธอนอีกด้วย

นี่คือความมหัศจรรย์ของการใช้ช่วงเวลาเช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งเราจะมาเรียนรู้ทั้ง 6 วิธีนี้กันในบทความนี้ครับ

6 ขั้นตอนสร้างชีวิตด้วย Life S.A.V.E.R.S เพื่อประสบความสำเร็จ

ชีวิตของเรานั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 4 อย่างคือ

1. ทางกายภาพ – ร่างกาย สุขภาพ และพลังงาน
2. ทางปัญญา – จิตใจ สติปัญญา และความคิด
3. อารมณ์ – อารมณ์ความรู้สึกและทัศนคติ
4. จิตวิญญาณ – สิ่งที่อยู่ข้างในจิตใจและพลังที่มองไม่เห็น

การมุ่งเน้นพัฒนาองค์ประกอบทั้ง 4 นี้ จะช่วยให้เราสามารถสร้างชีวิตที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้

ดังนั้น เพื่อยกระดับชีวิตของเรา เราต้องหาเวลาพัฒนาองค์ประกอบเหล่านี้ และเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือทำสิ่งเหล่านี้คือ ตอนเช้าครับ

และวิธีที่จะช่วยตอบโจทย์ชีวิตทั้ง 4 ด้านนี้ได้คือ แนวคิด Life S.A.V.E.R.S. ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอน

1. ความสงบนิ่ง (Silence)
2. คำปฏิญาณ (Affirmation)
3. การสร้างภาพจินตนาการ (Visualization)
4. ออกกำลังกาย (Exercise)
5. การอ่าน (Reading)
6. การเขียนบันทึก (Scribing)

เราจะทำไปลงรายละเอียดแต่ละส่วนกันครับ

เราทุกคนต้องเผชิญกับความเครียดมากมายในแต่ละวัน ช่วงเวลาเช้าจึงสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเวลาเดียวที่เราจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองอย่างสงบจริง ๆ

ซึ่งเราควรใช้ช่วงเวลาทองนี้ด้วยการเริ่มต้นทำกิจกรรมเหล่านี้

• การทำสมาธิ
• การสวดมนต์
• การคิดไตร่ตรองทบทวน
• การสูดลมหายใจลึก ๆ
• การขอบคุณต่อสิ่งต่าง ๆ

อาจจะทำแค่ 1 หรือหลาย ๆ กิจกรรมรวมกันก็ได้ โดยระยะเวลาแล้วแต่ทุกคนจะสะดวก แต่แนะนำสำหรับการเริ่มต้นประมาณ 5 นาที

กิจกรรมความสงบนิ่งเหล่านี้ ช่วยลดความเครียดลงได้อย่างรวดเร็ว แถมยังช่วยให้ตระหนักรู้และเข้าใจในตัวเองมากขึ้น และทำให้จิตใจปลอดโปร่งและมีสมาธิตั้งมั่นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวันนั้น ๆ

เทคนิค: ต้องไม่อยู่ที่เตียงนอนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมนี้ ควรออกจากห้องนอน

คำปฏิญาณ นับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในการที่จะทำให้เรากลายเป็นคนในแบบที่ต้องการ

คำปฏิญาณจะให้โอกาสเรา ในการออกแบบและพัฒนาทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ สิ่งที่มุ่งเน้นที่ต้องการเพื่อนำพาตัวเองไปสู่ชีวิตในระดับที่สูงขึ้นจากที่เป็นอยู่ในตอนนี้

เป็นการตั้งโปรแกรมให้จิตใต้สำนึกของเรา

เป้าหมายหลักคือการขจัดความคิดเชิงลบออกจากสมองที่อาจขัดขวางไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า และตั้งโปรแกรมใหม่ด้วยความคิดเชิงบวก

เพราะมนุษย์เราจะเป็นอย่างสิ่งที่เขาพูดกับตัวเองซ้ำ ๆ

ยิ่งเราพูดเรื่องดี ๆ ซ้ำ ๆ กับตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเรารู้สึกดีกับตัวเอง เราก็มีพลังที่จะลงมือทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และนั่นจะส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น

ซึ่งเราสามารถเลือกใช้คำปฏิญาณในการเริ่มตั้งโปรแกรมตัวเองเพื่อให้เกิดความมั่นใจและประทับลงจิตใต้สำนึกด้วยการบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่า เราต้องการเป็นอะไร คนแบบไหน อยากได้อะไร และสามารถใช้ได้กับทุกด้านของชีวิต ชีวิตครอบครัว, ความสัมพันธ์กับลูก, การงาน, สถานการณ์ทางการเงิน, สุขภาพ, ความเป็นอยู่ที่ดี, ความฝัน หรือความสำเร็จ

เช่น

• ฉันยอมรับและรักตัวเองในสิ่งที่ฉันเป็น
• ฉันแข็งแกร่ง และกล้าหาญ และไม่มีใครสามารถเอาสิ่งนี้ไปจากฉันได้
• ฉันเป็นนักเขียนที่เก่งและประสบความสำเร็จ
• ฉันเป็นนักพูดที่ประสบความสำเร็จ พูดสร้างแรงบันดาลให้ผู้คนนับล้าน
• ทุก ๆ วัน ฉันกำลังเป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขึ้น และมั่งคั่งมากขึ้น

วิธีการใช้คำปฏิญาณคือ ในทุก ๆ เช้าให้หยิบกระดาษนั้นมาแล้วอ่านพร้อมตะโกนดัง ๆ ข้อความนั้น ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ

แล้วข้อความนี้จะประทับเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเรา

จากนั้นเราก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนวิธีคิดและความรู้สึกไปโดยอัตโนมัติ จนเราสามารถเอาชนะความเชื่อและพฤติกรรมเดิม ๆ ที่ปิดกั้นตัวเองไว้และแทนที่ด้วยสิ่งที่เราต้องการได้

หลังจากนั้น เราก็จะเชื่อในสิ่งที่เราบอกกับตัวเอง และมันจะผลักดันให้เราลงมือทำตามนั้นอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อลงมือทำ ผลลัพธ์ก็จะปรากฏขึ้นจริงตามคำปฏิญาณในที่สุด

การสร้างภาพจินตนาการคือการใช้จินตนาการเพื่อสร้างภาพสำหรับสิ่งที่ต้องให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต

ในทุก ๆ เช้า เราสามารถจินตนาการว่าตัวเองได้ทำงานทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือจินตนาการนึกภาพถึงการได้มีบ้านในฝัน รถในฝัน หรือชีวิตที่ปรารถนา สถานที่ซึ่งอยากใช้ชีวิต สิ่งที่อยากทำ ความใฝ่ฝันที่มี หรืออะไรก็ได้ที่เราต้องการอยากให้เกิดขึ้น

การสร้างภาพเป็นเทคนิคที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ แรงจูงใจและสร้างความมั่นใจที่จะลงมือทำให้สิ่งที่จินตนาการนั้นเกิดขึ้นจริง

วิธีการ 3 ขั้นตอน

1. เตรียมตัวด้วยการนั่งและหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหลับตา ทำจิตใจให้สงบ
2. นึกภาพตัวเองได้บรรลุเป้าหมายแล้ว
3. ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกภาคภูมิใจ รู้สึกดี เพลิดเพลินไปกับภาพเหล่านั้น

และอีกเทคนิคหนึ่งคือการใช้กระดานภาพในอนาคต โดยการแปะรูปภาพสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ใฝ่ฝัน คนที่ใฝ่ฝัน สิ่งที่อยากทำ หรือสถานที่ซึ่งอยากไป แล้วติดไว้ในสถานที่ที่เราจะเห็นได้บ่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะยิ่งเห็นบ่อยมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เราลงมือทำเพื่อให้มันเกิดขึ้นจริงได้มากขึ้นเท่านั้น

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะกระตุ้นพลังงาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและปรับสภาวะทางอารมณ์ให้สมดุล พร้อมทำให้ความคิดปลอดโปร่ง มีสมาธิที่ดีขึ้นในระหว่างวัน

ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง แค่ใช้เวลาสักไม่กี่นาที (หรือมากกว่านี้แล้วแต่ละคน) ในทุก ๆ เช้า ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ขยับแขนขา วิดพื้น หรือกระโดดตบก็เพียงพอที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ในแต่ละวันได้แล้ว

หัวใจสำคัญอยู่ที่ได้ทำให้หัวใจได้ออกกำลังกาย ได้เต้นแรงมากขึ้น ให้เลือดได้ไหลเวียนทั่วร่างกาย และเติมออกซิเจนให้เต็มปวด

นอกจากการออกกำลังกายด้านร่างกายแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ การออกกำลังกายของสมอง ซึ่งวิธีที่ดีและง่ายที่สุดคือ การหยิบหนังสือดี ๆ มาสักเล่ม แล้วเปิดอ่าน

ทุกคนรู้ดีว่าการอ่านมีประโยชน์มากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการอ่านคือ การอ่านเปรียบเสมือนกุญแจไปสู่การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งได้ลองทำสิ่งที่เราต้องการมาให้แล้ว ดังนั้น เราไม่ต้องเสียเวลาทดลองอีกครั้ง

สำหรับคนเริ่มต้นอาจจะเริ่มต้นอ่านจำนวน 5 หน้าทุก ๆ เช้า หรือถ้า 10 หน้าก็จะยิ่งดี หรือจะใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีก็ได้

เพราะถ้าเราอ่าน 10 หน้าต่อวัน ใน 1 ปีเราจะอ่านได้มากถึง 3,650 หน้า ซึ่งเทียบเท่าหนังสือแนวพัฒนาตัวเองที่มีความหนา 200 หน้า จำนวนถึง 18 เล่มเชียว

การเอาความคิดจากในหัวออกมาลงสู่กระดาษ โดยการเขียนบันทึกนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับการออกกำลังกายสมอง

การเขียนบันทึกให้ประโยชน์มากมายกับเรา

• จัดระเบียบแนวคิด
• มีความคิดที่ชัดเจนมากขึ้น
• ได้รับความคิดใหม่ ๆ
• ตกผลึกความคิดเก่า ๆ
• ถอดบทเรียนต่าง ๆ ในอดีต
• บังคับให้เราต้องไตร่ตรอง
• ป้องกันไม่ให้ลืมความคิดสำคัญ ๆ ซึ่งอาจจะจำเป็นในอนาคต
• การย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่เขียน จะทำให้เห็นความก้าวหน้าและสร้างแรงบันดาลใจ

ซึ่งต้องเขียนให้เป็นประจำประมาณครั้งละ 5-10 นาที เช่น เขียนขอบคุณ เขียนเรื่องที่เกิดขึ้น เขียนความคิดความรู้สึก เขียนเป้าหมาย เขียนสิ่งที่ได้เรียนรู้ เขียนสิ่งที่ต้องปรับปรุง หรือเขียนสิ่งที่จะลงมือทำในวันนี้ ฯลฯ

บทสรุป

เราสามารถออกแบบชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเองในช่วงเช้าให้มีประสิทธิภาพได้ด้วยการใช้ 6 ขั้นตอนเหล่านี้

และนี่คือตัวอย่าง โดยใช้เวลา 60 นาที ในทุก ๆ เช้าเพื่อสร้างชีวิตสู่ความสำเร็จ

1. เริ่มต้นด้วยการทำความสงบ นั่งสมาธิ (5 นาที)
2. อ่านคำปฏิญาณ (5 นาที) ซ้ำ ๆ “วันนี้จะเป็นวันที่ดีของฉัน” “ฉันยอมรับและรักตัวเอง” ”ทุก ๆ วันฉันกำลังเป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขึ้น และมั่งคั่งมากขึ้น”
3. สร้างภาพจินตนาการ (5 นาที) นั่งลงและหลับตา จินตนาการภาพสิ่งที่เราใฝ่ฝัน สิ่งที่เราอยากได้ “บ้านหลังโต ราคา 10 ล้านบาท เห็นภาพตัวเองกำลังเดินเล่นอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข” “เห็นตัวเองยืนพูดสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้าน ทุกคนต่างตบมือชื่นชม”
4. ออกกำลังกาย (20 นาที) ออกไปวิ่งเหยาะ ๆ หรือทำโยคะ
5. อ่าน (20 นาที) อ่านหนังสือที่ชื่นชอบ
6. เขียน (5 นาที) ใช้เวลาเขียนสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จสำหรับวัน เขียนเป้าหมายในระยะยาว และเขียนความฝัน

ทั้ง 6 ขั้นตอนนี้ ต้องนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตของเราเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 60 นาที จะกี่นาทีก็ได้

ความสำคัญคือ การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ

แล้วไม่นาน ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนครับ

แล้วพบกันที่ปลายทางของความสำเร็จครับ! 💪

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

• หนังสือ Miracle Morning ทุกสิ่งในชีวิตจะดีขึ้น เมื่อตื่นเช้า
• https://www.linkedin.com/business/learning/blog/productivity-tips/6-morning-routine-habits-successful-people-swear-by
• https://www.asianefficiency.com/productivity/miracle-morning/