คุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองอยู่หรือไม่? คุณกำลังพยายามพัฒนาชีวิตของคุณอยู่หรือไม่? คุณต้องการเคล็ดลับการพัฒนาตัวเองหรือไม่? คุณต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่? หากคำตอบคือใช่ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณมาถูกทางแล้วครับ!
แน่นอนว่าเราทุกคนต้องการประสบความสำเร็จ และความสำเร็จของแต่ละคนก็มีหน้าตาที่แตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งครับที่เราทุกคนจะต้องใช้มันเพื่อไปสู่ความสำเร็จเหมือน ๆ กัน มันคือ “การพัฒนาตนเอง”
“ยิ่งเราพัฒนาตนเองมากแค่ไหน เรายิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น”
ข่าวดี เราทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้เสมอ ไม่ขึ้นอยู่กับวัย เพศ ฐานะ หรือใด ๆ ก็ตาม เพราะศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขต ไร้ข้อจำกัด
แต่เราจะพัฒนาตนเองได้อย่างไรล่ะ?
ลองอ่านบทความนี้ครับ ซึ่งเนื้อหาหลัก ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักว่าการพัฒนาตนเองคืออะไร? ทำไมมันถึงสำคัญนักล่ะ? สิ่งที่จะได้รับจากการพัฒนาตนเอง และมีเคล็ดลับหรือกลยุทธ์ใดบ้างหนอในการพัฒนาตนเอง รับรองว่าเมื่อเพื่อน ๆ อ่านจบ จะได้แนวคิดบางอย่างติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอนครับ
“ถ้าเราไม่ก้าวไปข้างหน้า โลกจะก้าวผ่านเราไป” – John C. Maxwell
- การพัฒนาตนเองคืออะไร?
- การพัฒนาตนเอง 2 รูปแบบ
- เหตุผลทำไมต้องพัฒนาตนเอง?
- 10 สิ่งที่จะได้รับจากการพัฒนาตนเอง
- 20 เคล็ดลับพัฒนาตนเองที่คุณก็ทำได้
- ปลูกฝังทัศนคติแบบเติบโต
- อ่านหนังสือ
- ตื่นแต่เช้า
- ใช้จินตนาการเพื่อพัฒนาตนเอง
- เขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต
- ออกจาก Comfort Zone
- เรียนรู้จากคนที่สร้างแรงบันดาลใจ
- เขียนบันทึกประจำวัน
- แวดล้อมตัวเองด้วยคนที่อยากเห็นเราพัฒนา
- ขอความคิดเห็น
- มีสติอยู่กับปัจจุบัน
- คิดบวก
- ดูแลร่างกาย
- เรียนรู้รับมือกับความเครียด
- อย่าหลีกเลี่ยงสิ่งที่ยาก
- เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
- ฝึกตั้งเป้าหมาย
- เรียนรู้ที่จะวางแผนวันล่วงหน้า
- เสพสื่อที่ส่งเสริมพัฒนาตนเอง
- ฝึกรู้สึกดีกับตัวเอง
- 6 ขั้นตอนในการเขียนแผนพัฒนาตนเอง
- 5 เคล็ดลับช่วยพัฒนาตนเองได้เร็วขึ้น [โบนัสจากประสบการณ์ส่วนตัว]
- คำคมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อพัฒนาตนเอง
- บทสรุป
การพัฒนาตนเองคืออะไร?

ความหมายของการพัฒนาตนเองนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาและชัดเจนมากครับ
การพัฒนาตนเอง คือ การพัฒนาความรู้ประสบการณ์ หรือนิสัยด้วยความพยายามของตนเองผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ การเรียนคอร์ส การได้รับคำแนะนำจากคนอื่น และการฝึกฝน
มันคือ การพยายามทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น พัฒนาขึ้นในทุกด้านต่าง ๆ ของชีวิต ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย บรรลุความฝันที่ต้องการ และเติมเต็มความรู้สึกภายในหรือความสุข
มาลงรายละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนกันอีกนิดครับ
การพัฒนาตนเองยังหมายถึงกระบวนการที่ทำให้เราย้ายจากจุด A ไปยังจุด B และจากจุด B ไปยังจุด C ไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดสุดท้ายของชีวิต มันคือกระบวนการตลอดชีวิต มันคือการเดินทางของชีวิตครับ
ซึ่งในระหว่างกระบวนเราจะพบกับความสุข ความหมาย และการเติมเต็ม เพราะเราจะได้รู้จักและสัมผัสคุณค่าของตัวเองผ่านการพัฒนาเติบโต
โดยรวมแล้วเราสามารถนิยามการพัฒนาตนเองสั้น ๆ ด้วยประโยคนี้ “การพัฒนาตนเอง คือ กระบวนการที่ทำให้เรากลายเป็นเราในเวอร์ชันที่ดีที่สุด”
การพัฒนาตนเอง 2 รูปแบบ
เมื่อเราพูดถึงการพัฒนาตนเอง เรามักจะนึกถึงการได้รับความสำเร็จบางอย่าง เช่น ได้รับเงินมากขึ้น ได้เพื่อนที่ดีขึ้น มีรูปร่างที่ดีขึ้น หรือได้ไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ แต่จริง ๆ แล้วนี้เป็นแค่หนึ่งรูปแบบของการพัฒนาตนเอง เพราะเราสามารถแบ่งการพัฒนาตนเองได้ 2 รูปแบบ (การรู้สิ่งนี้จะทำให้เราเข้าใจกระบวนการพัฒนาตนเองมากขึ้น)
1. การพัฒนาตนเองภายใน (Self Improvement) เช่น นิสัย รูปแบบความคิด ไอเดีย ความมั่นใจ ความเชื่อ ทักษะที่เรียนรู้ และพฤติกรรม
2. การพัฒนาตนเองภายนอก (External improvement) เช่น เงินทอง ทรัพย์สมบัติ สถานะ สุขภาพ ความสัมพันธ์
โดยทั้งสองส่วนนี้จะเชื่อมโยงและส่งเสริมกันและกัน เช่น การที่เราจะมีเงินทองมั่งคั่งร่ำรวยได้นั้น เราอาจจะต้องมีรูปแบบความคิดที่เหมาะสม และมีพฤติกรรมนิสัยที่เอื้อ
เหตุผลทำไมต้องพัฒนาตนเอง?

มีเหตุผลมากมายที่ว่าทำไมการพัฒนาตนเองนั้นจึงสำคัญ
- เราจะค้นพบสิ่งศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง
- เราจะเห็นคุณค่าและความหมายของการอยู่มีของตัวเอง
- เราจะเป็นคนที่เก่งขึ้นกว่าตัวเราคนเมื่อวานทุก ๆ วัน
- เราจะใช้ชีวิตอย่างจริงใจมากขึ้น เพราะเรารู้ว่าอะไรสำคัญต่อชีวิตเรา
- เราจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนได้
- เราจะแข็งแกร่งยืนหยัดกับความยากลำบากในชีวิตได้
- เราจะเข้าใจตนเอง ซึ่งทำให้เราเข้าใจคนอื่นไปโดยอัตโนมัติ
- เราจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
- เราจะเติบโตทางการงานมากขึ้น
- เราจะร่ำรวยมั่งคั่งมากขึ้น
- เราจะมีสุขภาพทั้งกายและจิตใจที่ดีขึ้น
- เราจะเชื่อมั่นในตัวเอง
- เราจะเป็นผู้คุมชะตาชีวิตของตัวเอง
- เราจะรอบรู้ เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต เข้าใจผู้คนมากขึ้น
- เราจะตื่นเต้นที่ได้ใช้ชีวิตที่เติบโตอยู่ตลอดเวลา ทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ
- เราจะรักตัวเองมากขึ้น
- เราจะได้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
- เราจะเติมเต็มและมีความสุข
- เราจะพูดคุยกับคนอื่นได้หลากหลายเรื่องมากขึ้น
- เราจะมีเรื่องราวที่มีความหมายให้นึกถึงตอนแก่
- ผู้คนจะรักและอยากอยู่ใกล้เรา
10 สิ่งที่จะได้รับจากการพัฒนาตนเอง
เราจะมาดูว่าทำไมการพัฒนาตนเองถึงสำคัญกับชีวิตเรา เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการพัฒนาตน
เพิ่มความตระหนักในตนเอง
ประโยชน์ประการแรกและสำคัญอย่างมากของการพัฒนาตนเองคือ เราจะตระหนักรู้และรู้จักตัวเองมากขึ้น
พวกเราส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตโดยใช้ระบบอัตโนมัติ ในแต่ละวันที่ผ่านไป เราไม่ตระหนักเลยว่าทำไมวันนี้เราเป็นเช่นนี้ เราไม่ตรวจสอบความรู้สึกและการกระทำของตัวเอง เราไ่ม่ได้ตระหนักรู้ในตัวเอง
แต่เมื่อเราเริ่มพัฒนาตนเอง เราจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ณ ตอนนี้เราเป็นใคร มีนิสัยยังไง มีความคิดยังไง จุดอ่อน จุดแข็งของเราคืออะไร คุณค่าในชีวิตเราคืออะไร เป้าหมายของคืออะไร ความฝันของเราคืออะไร และเราต้องการกลายเป็นคนแบบไหน
ซึ่งเมื่อเราเริ่มตระหนักรู้ในตัวเอง เราจะประเมินตัวเอง ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น มันจะช่วยพัฒนาทุกด้านของชีวิตทั้งด้านของอารมณ์ ความคิด และการกระทำ สามารถเพิ่มความมั่นใจ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะในการตัดสินใจ และสามารถพัฒนาความสัมพันธ์และอาชีพการเงินได้
บนเส้นทางของการพัฒนาตนเองเราจะค่อย ๆ เริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
สุขภาพจิตดีขึ้น
เหตุผลที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่มนุษย์เราต้องการแสวงหาการพัฒนาตนเองคือ การรักษาจิตใจให้แข็งแกร่ง การพัฒนาตนเองไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะด้านของสุขภาพภายนอก แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพภายในหรือสุขภาพจิตด้วย
การพัฒนาตนเองช่วยให้เราจัดการกับอารมณ์และความคิดได้อย่างมีเหตุมีผลได้ดียิ่งขึ้น เช่น เราจะตระหนักถึงความคิดเชิงลบที่โผล่เข้ามาในหัวมากขึ้นและมีวิธีรับมือกับมันแทนที่จะปล่อยให้มันครอบงำเรา
ช่วยระบุจุดแข็ง
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนล้วนรู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งอะไร
เมื่อเราอยู่บนเส้นทางของการพัฒนาตนเอง เราจะได้ลงมือทำ และการลงมือทำจะทำให้เราระบุจุดแข็งของตัวเองได้ เราจะรู้ว่าจุดไหนที่เราเก่ง จุดไหนที่สามารถพัฒนาได้มากขึ้น แล้วใช้จุดแข็งนั้นต่อยอดให้ดีขึ้นจนโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น
ช่วยเอาชนะจุดอ่อน
เมื่อระบุจุดแข็งของตัวเอง ส่วนหนึ่งของการพัฒนาตนเองก็เกี่ยวข้องกับการระบุจุดอ่อนของตัวเราด้วย
จุดอ่อนบางอย่างอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้เราเติบโตได้ ดังนั้น เราต้องกล้าเผชิญหน้ากับมัน ยอมรับแล้วพัฒนาให้ดีขึ้น แต่อย่าทุ่มเวลาทุกอย่างเพื่อพัฒนามันอย่างเดียว แค่ให้อยู่ในระดับที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของเรา
ออกจาก Comfort Zone
จำไว้ว่าเราจะไม่สามารถเติบโตได้เลย ถ้าเราอยู่นั่งอยู่ในที่ที่เรารู้สึกสบายใจ แต่ถ้าเราปักธงว่าจะพัฒนาตนเองแล้ว มันจะพาเราไปทำอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรที่เสี่ยงและท้าทายมากขึ้น นั้นหมายความว่าเรากำลังจะก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเองไปสู่ Growth Zone แล้ว
สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
เมื่อเราทำการพัฒนาตนเอง เราจะเริ่มพัฒนาทักษะความสัมพันธ์ การสื่อสาร ความเข้าอกใจเข้าใจคนอื่น ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้างดีขึ้นโดยอัตโนมัติ
เป็นเพราะส่วนหนึ่งเมื่อเราพัฒนาตนเอง เราจะได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึก ความเข้าใจตัวเอง ส่งผลเราสามารถรักษาความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น และที่สำคัญเมื่อเราเข้าใจตนเอง เราจะเข้าใจผู้อื่นโดยอัตโนมัติ
เพิ่มทักษะการตัดสินใจ
ในแต่ละวันเราล้วนต้องตัดสินใจ และทุกการตัดสินใจจะส่งผลต่อผลลัพธ์ในชีวิตของเรา การตัดสินใจบางอย่างสามารถเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นหรือแย่ลงได้ การเรียนรู้วิธีพัฒนาทักษะการตัดสินใจสามารถนำไปสู่ประโยชน์มากมายและลดความผิดพลาด
ซึ่งทักษะในการตัดสินใจที่ดีนั้นมาจากความคิดที่ชัดเจน การตระหนักรู้ในตนเอง และความมั่นใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาตนเองโดยตรง
ช่วยให้สุขภาพกายดีขึ้น
การพัฒนาตนเองยังรวมถึงการดูแลร่างกายสุขภาพของตนเองอีกด้วย เพราะร่างกายเป็นรากฐานของการพัฒนาตนเอง ถ้าเรามีร่างกายสุขภาพที่แย่ ความสามารถในการพัฒนาตนเองของเราก็จะแย่ตามไปด้วย ดังนั้น เมื่อเราพัฒนาตนเอง เราจะรู้ว่าสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น เช่น เราออกกำลังกายมากขึ้น นอนหลับให้เพียงพอมากขึ้น ทานอาหารที่ดีมากขึ้น
ช่วยให้จดจ่อมากขึ้น
เมื่อเราทำให้การพัฒนาตนเองเป็นเป้าหมายในชีวิต เราจะเริ่มเห็นภาพของตัวเองชัดเจน เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เราจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตของเรา ซึ่งทำให้เราแยกแยะสิ่งที่ตอบโจทย์การพัฒนาในชีวิต และขจัดสิ่งที่ไม่ได้สำคัญในชีวิตออกได้ ทำให้เรามีการจดจ่อมากขึ้น
ช่วยให้รู้จุดมุ่งหมายในชีวิต
การพัฒนาตนเองทำให้ชีวิตเรามีจุดมุ่งหมายในชีวิต เพราะเมื่อเราเดินบนเส้นทางการพัฒนาตนเอง เราจะรู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น ทำไปเพื่ออะไร เรากำลังเดินไปจุดไหน ทำให้เราไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค ความท้าทาย ความล้มเหลวต่าง ๆ นานาที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง
20 เคล็ดลับพัฒนาตนเองที่คุณก็ทำได้

มีวิธีต่าง ๆ มากมายที่เราสามารถใช้เพื่อพัฒนาตนเองได้ ต่อไปนี้คือวิธีการที่ผมคัดมาโดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องทำทุกข้อ เราสามารถเลือกทำบางข้อที่เราสนใจก่อนก็ได้ครับ
ปลูกฝังทัศนคติแบบเติบโต
หากเรามีทัศนคติที่ตายตัว (Fixed Mindset) เราจะหลีกเลี่ยงความท้าทาย เพราะกลัวจะรู้สึกอับอายต่อหน้าคนอื่น กลัวความล้มเหลว และเชื่อว่าเราไม่สามารถพัฒนาได้หรอก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นศัตรูอันดับ 1 ของการพัฒนาตนเอง
สำหรับการพัฒนาตนเอง เราต้องเป็นคนที่มีทัศนคติแบบเติบโต (Growth Mindset) เราจะสนุกกับความท้าทาย เปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา แม้อาจจะเสี่ยงหรือผิดพลาดบ้าง แต่ก็ตระหนักดีว่าประสบการณ์เหล่านี้จะสร้างทักษะใหม่ ๆ ความรู้ใหม่ ๆ ที่ทำให้เราพัฒนาเติบโตได้
สิ่งแรกที่ต้องทำ ถ้าเราอยากเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง พัฒนาตัวเองคือ เปิดหัวใจต้อนรับทัศนคติแบบเติบโต สำหรับใครสนใจเรื่องแนวคิดทัศนคติแบบเติบโต ผมได้เขียนบทความไว้อย่างละเอียด สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ “Growth Mindset คืออะไร? [ฉบับสมบูรณ์] – พร้อม 16 วิธีพัฒนา Growth Mindset“
อ่านหนังสือ
คนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในโลกล้วนเป็นนักอ่านตัวยง พวกเขาอ่านเพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อเติมข้อมูลใหม่ ๆ เข้าสมอง มันคือการออกกำลังกายสมอง เช่น บิล เกตส์อ่านหนังสือ 50 เล่มต่อปี หรือวอร์เรน บัฟเฟตต์อ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ ข้อมูลต่าง ๆ 500 หน้าทุกต่อวัน
หนังสือเป็นแหล่งรวมของภูมิปัญญาที่ราคาถูกและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ยิ่งอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งค้นพบปัญญามากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าเราจะพัฒนาด้านใดก็ตาม การอ่านหนังสือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในการเดินทางบนเส้นทางการพัฒนาตนเองของเรา เมื่ออ่านหนังสือ เราจะเพิ่มพูนความรู้ ขยายขอบเขตของความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการคิด การตัดสินใจของเราจะเฉียบคมมากขึ้น และมันยังสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้เราด้วย
ลองอุทิศเวลาสัก 10 นาทีทุกวันในการอ่านหนังสือ ภายในไม่กี่เดือน เราจะพบว่าเราไม่เหมือนคนเดิมอีกต่อไป
ตื่นแต่เช้า
คนประสบความสำเร็จอย่างสูง ล้วนมีนิสัยตื่นแต่เช้ามืด เพราะพวกเขารู้ดีว่าช่วงเวลาเช้านั้นเป็นช่วงที่มีเวลาได้อยู่กับตัวเองมากที่สุดและมีพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ มากที่สุด
เมื่อเราตื่นแต่เช้า เราจะมีเวลาพัฒนาตนเองก่อนที่คนอื่นจะตื่น เราจะมีเวลาเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ดื่มด่ำกับความเงียบสงบในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง เช่น การอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เขียนบันทึก การทำสมาธิ ทบทวนเป้าหมายในชีวิต ทำลิสต์สิ่งที่ต้องทำของวันนี้ หรือทำงานที่ยาก ๆ ที่ต้องใช้ความคิด เรียกได้ว่าช่วงเช้าเป็นเวลาทองของคนที่รักการพัฒนาตนเอง
ลองหันมาตื่นเช้าสัก อาจจะเริ่มต้นด้วย ตื่นเร็วขึ้นวันละ 15 นาทีก็ได้ครับ
ใช้จินตนาการเพื่อพัฒนาตนเอง
อย่าดูพลังของการจินตนาการเชียวนะครับ
กฎของสมองคือ สมองมันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เราคิดเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ดังนั้น เราต้องจินตนาการถึงกระบวนการตอนที่เราพัฒนาตนเอง เช่น จินตนาการว่าตัวเองกำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งอกตั้งใจอยู่หรือจินตนาการว่าตัวเองนั่งทำงานอย่างตั้งใจทั้งวัน หรือจินตนาการว่าเรากำลังฝึกฝนอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อเราจินตนาการอย่างนั้น สมองเราจะสร้างสัญญาณที่คล้ายคลึงราวกับว่าเรากำลังทำสิ่งนั้นอยู่จริง ๆ และเมื่อเราไปลงมือทำจริง ๆ สมองก็จะดึงเอาสิ่งที่มันเคยเรียนรู้จากการจินตนาการของเรามา แล้วเราจะลงมือทำสิ่งนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น
เขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต
ลองหยิบกระดาษมาแล้วเขียนจดหมายถึงตัวเราในอนาคตด้วยการตอบคำถามเหล่านี้ “อยากเห็นตัวเองอีก 5 ปีเป็นคนยังไง?” และ “ถ้าฉันเริ่มพัฒนาตนเองตั้งแต่วันนี้ อีก 5 ปีข้างหน้า ฉันจะเป็นคนแบบไหนและมีอะไรบ้าง? และขอให้ทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้ “แล้วเราเจอกันอีก 5 ปีข้างหน้า” (มันจะเป็นการให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง)
เมื่อเขียนเสร็จให้กำหนดวันที่จะต้องเปิดอ่าน เช่น ในวันที่ 01/01/2027 หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้กลายเป็นคนในอีก 5 ปีข้างหน้าที่จะได้มาเปิดจดหมายฉบับนี้
การเขียนถึงตัวเองในอนาคต จะเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราอยากเป็นคนยังไง อยากมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน และอยากให้เกิดอะไรขึ้นในตัวเราในอนาคต
แบบฝึกหัดนี้สามารถสร้างคุณค่าให้กับชีวิตเราได้มาก และผมลองทำแล้ว รู้สึกดีมาก ๆ ครับ ลองใช้เวลาไม่กี่นาที รับรองว่ามันคุ้มค่ากับเวลาอย่างแน่นอนครับ
สำหรับใครอยากทำบนออนไลน์ ผมแนะนำเว็บนี้ครับ Futureme แต่จะส่งเข้า email นะครับ (ดีมาก ๆ อยากให้เพื่อน ๆ ลองครับ)
ออกจาก Comfort Zone
การเติบโตที่แท้จริงมาพร้อมกับหยาดเหงื่อ การอยู่ในพื้นที่สบายที่ที่เราคุ้นชินจะไม่ช่วยให้เราเติบโตได้
การพัฒนาตนเองอีกแง่มุมมันคือการเติบโต ถ้าเราอยากเติบโต เราต้องพร้อมแลกเปลี่ยนหยาดเหงื่อ แรงกาย แรงใจ ความเสี่ยง ความกลัว ซึ่งมันคือพื้นที่นอก Comfort Zone
ลองระบุเส้นแบ่งระหว่าง Comfort Zone ของเราในวันนี้ และถ้าจะเริ่มต้นก้าวออกจากเส้นนี้ ต้องทำยังไง แนะนำให้ลองก้าวออกทีละเล็ก เช่น ลองไปทานข้าวคนเดียว ออกไปเที่ยวคนเดียว อ่านหนังสือให้จบ 1 เล่มภายในวันหยุดนี้ ตื่นเช้าให้เร็วขึ้น 15 นาที
เราต้องยอมข้อนี้อย่างใจจริงว่าพื้นที่แห่งการพัฒนาตนเอง จะอยู่นอกเหนือ Comfort Zone เสมอ ดังนั้น เราหนีไม่พ้น เผชิญหน้ากับมัน แล้วลุยครับ
เรียนรู้จากคนที่สร้างแรงบันดาลใจ
คนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีฮีโร่ในดวงใจ พวกเขาล้วนมีต้นแบบ คนที่ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะเป็นแบบนั้นให้ได้ นี่คือจุดเริ่มต้น ทำให้เขาอยากพัฒนาตนเอง
วิธีเริ่มต้นของการพัฒนาตนเอง เราต้องหาต้นแบบ หาฮีโร่ในดวงใจของเราแล้วเรียนรู้จากเขา เราจะรู้สึกดีและได้รับแรงบันดาล และยิ่งกว่านั้น ให้มองหาคุณสมบัติที่เราอยากจะมีเหมือนเขา แล้วหาทางพัฒนาคุณสมบัติเหล่านั้น (เช่นผม ผมอยากเขียนเก่งขึ้น ก็มองหาคนที่เขียนเก่ง ๆ แล้วซื้อหนังสือเขา ฟัง Podcast เขา ศึกษาชีวิตประจำวันเขา ศึกษาประวัติเขา ศึกษาความคิดของเขา ศึกษาวิธีเขียนเขา ศึกษาแทบจะทุกแง่มุมของชีวิตเขา)
และอย่ามองหาแค่คนเดียว ให้มองหาหลาย ๆ ด้าน เช่น คนนี้เก่งเรื่องนี้ เขาคือต้นแบบในด้านนี้ คนนั้นเก่งเรื่องนั้น เขาคือต้นแบบในด้านนั้น
เขียนบันทึกประจำวัน
การบันทึกประจำวันอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เราค้นพบรูปแบบและแนวคิดที่เกิดซ้ำ ๆ ทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เพราะเวลาที่เราเขียนมันคือการที่เราพูดคุยกับตัวเอง และเป็นวิธีหนึ่งในการฝึกสมองที่ดีที่สุด เพราะทุกครั้งที่เราลงมือเขียน สมองเราจะพยายามเรียบเรียงข้อมูล ช่วยให้สมองได้ฝึกจัดระเบียบความคิดไปในตัว และเรายังจะพบไอเดียมากมายหลั่งออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย
เริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้ หาสมุดสักเล่ม หรือจะบนมือถือก็ได้ หรือถ้าให้ดีเขียนแบ่งปันในโซเชียล มีเดียหรือบล็อก และอย่าลืมจดบันทึกการขอบคุณด้วย เขียนรายการสิ่งที่รู้สึกขอบคุณทุกวัน เพราะมันเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับพัฒนาตนเองที่ทรงพลังมากที่สุด
แวดล้อมตัวเองด้วยคนที่อยากเห็นเราพัฒนา
จิม โรห์น นักสร้างแรงบันดาลใจผู้เป็นตำนานเคยบอกไว้ว่า “คุณคือผลรวมของคน 5 คนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด”
สิ่งแวดล้อมและผู้คนในแต่ละวันที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยมีผลต่อความคิด การกระทำ ความรู้สึกของเรามหาศาล ดังนั้นถ้าเราอยากพัฒนาได้ไกล จงตรวจสบว่าคนที่เรากำลังใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดนั้น เป็นคนที่พร้อมสนับสนุนเป็นกำลังใจให้เราพัฒนาเติบโตหรือไม่
ขอความคิดเห็น
ในเส้นทางการพัฒนาตนเอง เราจะมีจุดบอดอยู่เสมอ การขอความคิดเห็นจะช่วยให้เรามีมุมมองที่แตกต่างในการมองสิ่งเดิม
ลองมองหาคนที่พร้อมจะให้ความคิดเห็นเรื่องต่าง ๆ แก่เรา แต่ระวัง ต้องเป็นคนที่ไม่อคติ ไว้ใจได้ และพูดความจริงอย่างตรงไปตรง อาจจะเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว คนที่เราเคารพ หรือที่ปรึกษา
มีสติอยู่กับปัจจุบัน
หลายคนมองเรื่องของการอยู่ปัจจุบันเป็นเรื่องของศาสนาหรือจิตวิญญาณ แต่ความจริงแล้วมันเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาตนเอง ถ้าเราไม่อยู่กับปัจจุบัน ความคิดจะพาเราไปเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตหรืออนาคต ทำให้เราหลงลืมปัจจุบันไป
แน่นอนว่าเรายังมีเป้าหมายหรือความฝันที่มุ่งมั่น แต่เราต้องสนุกและมีความสุขกับกระบวนการพัฒนาตนเองในแต่ละนาทีด้วย และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็เกิดจากการพัฒนาตนเอง ณ ตอนนี้ เวลานี้
คิดบวก
การคิดเชิงบวกคือการเชื่อและวางใจในความสามารถของตัวเอง ทำให้เรายังคงมุ่งมั่นไปที่ยังเป้าหมาย แม้จะกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่ก็ตาม
มันคือความสามารถที่จะมองเห็นสิ่งดี ๆ จากสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตัวอย่างเช่น มองความผิดพลาดเป็นบทเรียนที่มาสอนเราให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด หรือมองว่าการที่เรายังไม่ประสบความสำเร็จนั้น ก็เพราะว่าสิ่งที่มีค่านั้น ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ แต่ถ้าเราไม่คิดเช่นนี้แล้วเลือกที่จะยอมแพ้ ทุกอย่างจบ ดังนั้นความสามารถในการคิดบวกและเดินหน้าต่อไปเป็นรากฐานของความสำเร็จของการพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง
จงพยายามรักษา 3 สิ่งนี้ไว้เสมอ คุยแง่บวกกับตัวเอง เสพสิ่งที่เป็นบวกต่อตัวเอง และคาดหวังในแง่บวก
ดูแลร่างกาย
คนมากมายไม่ยอมออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร จึงต้องแบกน้ำหนักเกินและปัญหาสุขภาพไปพร้อมตัวเองตลอดเวลา และในไม่ช้าทุกอย่างจะพังลง เพราะจิตใจที่แข็งแรงต้องอาศัยในร่างกายที่แข็งแรง ถ้าจิตใจเราอ่อนแอ ทุกอย่างพัง เช่น ผมเคยทำงานหนักมากจนไม่ได้มีเวลาออกกำลังกายเลย ในที่สุดป่วยครับ และเสียเวลาป่วยไปหลายวันเลย
การออกกำลังกายเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้การพัฒนาตนเองของเราประสบผลสำเร็จ มันสามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นในวันที่แย่ ช่วยให้หลับสบายขึ้น และช่วยควบคุมสภาวะจิตใจของเราได้
ดังนั้นเวลาทำงาน ทำงานให้เต็ม แต่ต้องหาเวลาในการดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เช่น เวลาออกกำลังกาย โดยกำหนดไว้เลยว่า จะออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน และเวลาไหน
เรียนรู้รับมือกับความเครียด
ความเครียดในระดับที่สูงไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเราเท่านั้น แต่มันยังลดความสามารถในการพัฒนาตนเองอีกด้วย เช่น เวลาเราเครียด อารมณ์เราจะดิ่งลง ความมั่นใจลดลง ไม่มีกำลังใจอยากทำอะไร การตัดสินใจแย่ลง ผลงานที่ทำก็ประสิทธิภาพต่ำลงอีกด้วย
เราต้องเรียนรู้วิธีการที่คลายความเครียดที่เราจะต้องพบเจอในเส้นทางพัฒนาตนเอง เราต้องเตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือกับความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เทคนิคส่วนตัวผมใช้วิธีนี้ เวลาเครียดให้ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ให้เราหลงลืมเรื่องที่เครียดให้ได้ เช่น ออกกำลังกายหรือดูหนัง และพยายามออกจากสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อความเครียด เช่น หน้าโต๊ะทำงาน
อย่าหลีกเลี่ยงสิ่งที่ยาก
เวลาเผชิญสิ่งที่ยาก สิ่งที่ทำให้เรากลัว ให้เรารักษาทัศนคติว่า ยิ่งยาก ยิ่งได้เรียนรู้ ยิ่งได้เรียนรู้ ยิ่งเติบโต ยิ่งเติบโต ยิ่งพัฒนา แล้วเดินหน้าเข้าหามัน มันจะกลายเป็นเชื้อเพลิงเร่งการพัฒนาให้เรา แต่หากเราหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่ยาก หมายความว่าเราไม่ได้ให้โอกาสตัวเองที่จะได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว
เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
การเรียนรู้ทักษะและความสามารถใหม่ ๆ เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพัฒนาตนเอง มันไม่เพียงแต่เปิดใจของเรา แต่ยังทำให้เรามีความรอบรู้มากขึ้น เพิ่มความจำข้อมูลในสมอง และช่วยให้เราออกจาก Comfort Zone อีกด้วย และวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันว่า ยิ่งเราเรียนรู้ทักษะและความสามารถใหม่ ๆ มากเท่าไร เรายิ่งจะมีแนวโน้มที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
ฝึกตั้งเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการพัฒนาตัวเอง เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าเป้าหมายของการพัฒนาตัวเองของเรานั้นคืออะไร มันก็ยากที่เราจะมีแรงที่อยากพัฒนาตนเอง เหมือนนักวิ่งที่มองไม่เห็นเส้นชัย เขาก็ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทางไหน พอไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทางไหน ก็ไม่รู้จะฝึกซ้อมไปทำไม
การมีเป้าหมายไม่เพียงแต่ทำให้เราเข้าใจทิศทางการพัฒนาตัวเองและชีวิตที่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จทุกครั้งที่เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย
เรียนรู้ที่จะวางแผนวันล่วงหน้า
การวางแผนวันข้างหน้าไม่เพียงแต่ช่วยให้จัดระเบียบความคิดเท่านั้น มันยังช่วยกระตุ้นความคิดเชิงวิเคราะห์และช่วยให้สมองไม่ต้องยุ่งกับข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องคิดด้วย
เราจะรู้สึกเครียดหากพยายามจดจำทุกสิ่งอย่างไว้ในหัว ดังนั้น การวางแผนวันล่วงหน้าจะช่วยให้สมองไม่ต้องไปเสียเวลาคิด แค่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง แค่นี้ก็ลดภาระในสมอง เราก็จะรู้สึกเครียดน้อยลง และทำสิ่งต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เสพสื่อที่ส่งเสริมพัฒนาตนเอง
คำพูดที่ว่า “ร่างกายคือผลลัพธ์ของสิ่งที่เรากิน” ยังสามารถใช้ได้กับสิ่งที่เราเสพผ่านการฟังและการดูด้วย
ทุกคอนเทนต์ที่เราอ่าน ทุกพอดแคสต์ที่เราฟัง ทุกซีรีส์ ละคร หนังที่เราดู ล้วนมีอิทธิพลต่อจิตใจ อารมณ์และความคิดของเรา
จงพิจารณาสิ่งที่เราจะเสพให้ดี ให้ถามตัวเองว่า “สิ่งนี้จะช่วยให้ฉันเป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขึ้นหรือไม่?”
ฝึกรู้สึกดีกับตัวเอง
มันยากมากที่เราจะพัฒนาตัวเองได้ไกล ถ้าเรายังไม่รู้สึกดีกับตัวเองและชีวิตของเรา ต่อไปนี้คือวิธีที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น
- อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
- มองในสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หันหน้าหนีจากสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
- จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราถนัด
- เฉลิมฉลองกับทุกความสำเร็จ แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
- ทำสิ่งดี ๆ ให้กับใครซักคนแล้วเราจะรู้สึกดีกับตัวเอง
- ออกกำลังกายจะช่วยให้รู้สึกมั่นใจในตัวเอง
- พูดในแง่บวกกับตัวเอง
ถึงเวลาเลิกตัดสินตัวเองในแง่ไม่เป็นประโยชน์แล้ว โอบกอดตัวเอง รู้สึกดีกับตัวเองแล้วเราจะอยากพัฒนาตัวเราคนนี้ให้เป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขึ้น
6 ขั้นตอนในการเขียนแผนพัฒนาตนเอง

เราทุกคนล้วนอยากพัฒนาตนเอง แต่น่าเสียดาย มีคนไม่มากนักที่ประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาตนเอง ซึ่งมักเกิดจากการไม่มีแบบแผนที่เรียบง่ายและชัดเจนตั้งแต่แรกหรือการตั้งเป้าหมายที่ยากเกินความสามารถของตัวเอง ต่อไปคือ 6 ขั้นตอนง่าย ๆ สามารถใช้เป็นแนวทางได้ครับ
ประเมินล่วงหน้า
ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือ เราต้องรู้ว่าตัวเองยืนอยู่ ณ จุดไหนอยู่ ลองนั่งลงคนเดียวแล้ววิเคราะห์ด้วยความเป็นกลางว่าชีวิตในด้านไหนบ้างที่จำเป็นต้องพัฒนาให้ดีขึ้นได้แล้ว
ลองถามคำถามเหล่านี้
- ฉันมีความสุขกับงานที่กำลังทำอยู่หรือเปล่า?
- ฉันเคยมีความฝันแต่ไม่เคยได้ลงมือทำหรือเปล่า แล้วมันคืออะไร?
- ฉันใช้เวลาในแต่ละวันอย่างคุ้มค่าหรือเปล่า?
- ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว คนรัก เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนฝูงหรือเปล่า?
- ฉันรู้สึกสุขภาพแข็งแรงทั้งทางจิตใจและร่างกายหรือเปล่า?
- ฉันรู้สึกมั่นคงเรื่องของการเงินหรือเปล่า?
- ฉันรู้สึกสงบและมีความสุขกับชีวิตง่ายหรือเปล่า?
- ฉันอ่านหนังสือ เรียนคอร์ส หาความรู้เพิ่มเติมหรือเปล่า?
แล้วให้ลองให้คะแนนตามความรู้สึกของตัวเองจาก 1 ถึง 10 เพื่อวัดว่าชีวิตในด้านไหนที่จะต้องพัฒนา
วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน
เรามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตมากขึ้น ถ้าหากได้ใช้ความสามารถที่เรามีได้อย่างเต็มที่ และเราจะประสบปัญหาน้อยลง ถ้ารู้ว่าจุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วพัฒนาจุดนั้นให้ดีขึ้น
แน่นอนว่าในชีวิตเราแต่ละคน จะมีบางสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าสิ่งอื่นเสมอ และมีบางสิ่งที่เราทำได้แย่กว่าสิ่งอื่นเสมอเช่นกัน แต่หลายคนไม่เคยพิจารณามันจริง ๆ ว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของเราคืออะไร เมื่อเราไม่เคยวิเคราะห์ เราก็จะไม่สามารถพัฒนามันให้ดีขึ้นได้
การทำการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนต่าง ๆ ของตัวเองจะช่วยกำหนดทิศทางและเทคนิคที่จะใช้ในเส้นทางการพัฒนาตนเอง เช่น เราอาจเป็นผู้ฟังที่ดี แต่มีปัญหาเรื่องโกรธง่าย หากเราไม่ตระหนักเรื่องนี้ อาจทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้าง แย่ลงกว่าเดิมได้ เราจึงต้องวิเคราะห์ จึงจะได้ตระหนักรู้ว่าจุดอ่อนของเราเป็นเรื่องของการโกรธง่าย ดังนั้น เราจะพัฒนาตัวนี้ให้ดีขึ้น หรือเราพบว่าเราเก่งเรื่องร้องเพลง เราก็สามารถขยายผลของความเก่งนี้ไปได้อีก เช่น ลองพัฒนาสอนคนอื่นร้องเพลงไหม หรือ Live ร้องเพลงโชว์คนอื่นไหม
ลองถามตัวเองว่า
- เรามีข้อดีอะไรที่คนอื่นไม่มีบ้าง?
- เราทำอะไรได้ดีกว่าคนอื่น?
- คนอื่นชอบชมเราเรื่องไหน?
- เรารู้สึกไม่มั่นใจกับการทำอะไร?
- คนอื่นมองว่าจุดอ่อนของเราคือเรื่องอะไร?
- นิสัยเชิงลบที่เรามีอยู่คืออะไร?
กำหนดเป้าหมาย
หลังจากเราได้กำหนดด้านต่าง ๆ ในชีวิตแล้วว่าจะพัฒนาส่วนไหน ให้แปรเปลี่ยนมันกลายเป็นเป้าหมายโดยการเขียนเป็นรายการเป้าหมายต่าง ๆ โดยไม่เรียงตามลำดับความสำคัญ และให้เป็นเป้าหมายที่สามารถเป็นไปได้ เช่น
- อยากพัฒนาด้านการควบคุมอารมณ์โกรธให้ดีขึ้น
- อยากพัฒนาความรู้ด้านการลงทุนมากขึ้น
- อยากมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น
- อยากอ่านหนังสือมากขึ้น
- อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น
จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย
เมื่อเรามีเป้าหมายที่อยากพัฒนาหลายเป้าหมาย มันง่ายที่จะทำให้เรารู้สึกไม่รู้จะเอายังไงต่อ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน มีวิธีช่วยแก้ปัญหานี้ครับ เราต้องรู้ว่า ทุกเป้าหมายไม่ได้มีความสำคัญ เราต้องจัดเรียงเป้าหมายตามลำดับความสำคัญและความเร่งด่วน โดยให้ยึดหลักว่า เป้าหมายไหนสามารถส่งผลดีต่อด้านอื่น ๆ ได้มากที่สุด เช่น เป้าหมายเกี่ยวการควบคุมอารมณ์โกรธ อาจเป็นเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุด ต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญและเร่งด่วนที่ต้องรีบพัฒนามากที่สุด
ออกแบบแผนลงมือทำ
เมื่อได้ลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของเป้าหมายแล้ว ให้นำเป้าหมายมาอยู่ในรูปแบบที่เอื้อต่อการลงมือทำเรียกว่าเป็นการสร้างแผนลงมือทำ โดยแต่ละเป้าหมายสามารถแบ่งกิจกรรมการลงมือทำได้มากกว่าหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
เป้าหมายฝึกควบคุมอารมณ์โกรธ
- นั่งสมาธิทุกเช้าเป็นเวลา 10 นาที
- เขียนขอบคุณสิ่งที่ได้พบเจอมาระหว่างในก่อนนอน
- ในระหว่างวัน ฝึกที่จะมีสติอยู่ตลอดเวลาโดยการเฝ้ามองความคิด ความรู้สึกของตนเองให้มากที่สุด
- เมื่อโกรธ ให้มีสติและบอกตัวเองว่า เรากำลังฝึกที่จะอยู่เหนือมัน การโกรธสามารถทำร้ายคนอื่นและทำร้ายตัวเราเอง แล้วให้นับลมหายใจเข้าออก 10 ครั้ง
เป้าหมายการลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดี
- ไปวิ่งตั้งแต่ 06.00-07.30 เช้าทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์
- พกอาหารสุขภาพไปกินเป็นมื้อเที่ยงทุกวัน
- งดกินขนมตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์
- เดินออกมาปากซอยแทนที่ใช้บริการพี่วิน
- บอกครอบครัว แฟนว่าให้คอยเตือนด้วย ถ้าเกิดเผลอไปทำอะไรที่ไม่ได้อยู่ในแผน
ไม่ว่าแผนการลงมือทำจะเป็นยังไง จงตั้งใจให้แน่วแน่ว่าจะลงมือทำตามโดยไม่มีข้อแม้ และระลึกเสมอว่านี้คือเส้นทางที่จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่พัฒนาขึ้น กลายเป็นเราในเวอร์ชันที่ดีขึ้น
ตรวจสอบความคืบหน้า
หนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายคนไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้คือ พวกเขาไม่จัดเวลาเพื่อวัดความก้าวหน้าและวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถ้าอยากให้เป้าหมายมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น เราต้องวัดความก้าวหน้าและวิเคราะห์โดยแบ่งเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน โดยใช้คำถามนี้ทุกครั้ง “ฉันกำลังลงมือทำในสิ่งที่จะทำให้เข้าใกล้เป้าหมายอย่างแท้จริงไหม?” ถ้าคำตอบว่า ไม่ ให้ทบทวนแล้วต้องทำอะไรที่จะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น อย่าลังเลที่จะเปลี่ยนแผนหรือปรับเปลี่ยนอะไร แต่ถ้า ใช่ ให้เดินหน้าทำสิ่งเดิมต่อไป
สิ่งสำคัญเวลาตรวจสอบความคืบหน้า ถ้าเกิดเราไม่ได้ลงมือทำอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ อย่าโทษตัวเอง ให้มองว่าแล้วเราจะต้องทำยังไงให้ตัวเองลงมือทำตามแผนได้ แล้วเริ่มใหม่อีกที
5 เคล็ดลับช่วยพัฒนาตนเองได้เร็วขึ้น [โบนัสจากประสบการณ์ส่วนตัว]
อยากพัฒนาตนเองอย่างแรงกล้า
เราต้องให้การพัฒนาตนเอง อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเป็นเป้าหมายสูงสุด ทำเหมือนว่ามันเป็นทุกสิ่ง ทุกอย่างที่จะกำหนดอนาคตของเรา ทำเหมือนว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับมัน คิดถึงมันทุกลมหายใจ ทุกเวลา ตั้งแต่ตื่นจนนอนหลับ ถ้าฝันถึงมันได้ ยิ่งดี
เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงได้
ถ้าจะบอกว่าพลังที่มีทรงพลังมากที่สุดของมนุษย์เรา คงจะหนีไม่พ้น พลังของความเชื่อ มนุษย์ขับเคลื่อนชีวิตด้วยความเชื่อ เพราะเราเชื่อแบบนี้ เราจึงคิดแบบนี้ เมื่อเราคิดแบบนี้ เราจึงลงมือทำแบบนี้ ดังนั้นจงเชื่ออย่างสนิทใจว่า เราจะกลายเป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น และทำให้อนาคตของเรา เป็นอนาคตที่ดีกว่าตอนนี้ได้
ลงมือทำทันที
เวลาจะลงมือทำอะไร อย่าใช้ความคิดเยอะ ทำก่อนแล้วคิด ถ้าเราบอกตัวเองว่าจะอ่านหนังสือ ก็จับหนังสือมาเลยตอนนี้ แล้วอ่าน จะอ่านกี่นาทีไม่สำคัญ ขอแค่ได้เริ่มทำอะไรบางอย่าง แล้วเราจะมีแรงส่งที่อยากจะทำมันมากขึ้นเอง
มองผลลัพธ์ให้คม
หมายความว่า เวลาผลลัพธ์เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเราทำสำเร็จหรือล้มเหลว ให้มองว่าผลลัพธ์ที่ล้มเหลวนั้นคือ การเรียนรู้ เป็นสัญญาณบอกให้ฝึกฝนมากขึ้น หาความรู้มากขึ้น หรือลองใหม่ในวิธีที่ดีขึ้น และผลลัพธ์ที่สำเร็จคือ เครื่องหมายถูกที่ยืนยันว่าเราทำถูกทางแล้ว ให้เพิ่มพูน ขยายผลความสำเร็จนั้น
ลงมือทำซ้ำ ๆ
เวลาลงมือพัฒนาตนเองหัวใจสำคัญคือ การทำซ้ำ ๆ จนกลายเป็นนิสัย แล้วนิสัยนั้นจะสร้างชีวิตที่เราต้องการให้เรา
คำคมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อพัฒนาตนเอง
1. “จงเสพติดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและไม่มีวันสิ้นสุด” ― Anthony J. D’Angelo
2. “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะทำอะไร และไม่ว่าคุณจะมาจากไหน คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เปลี่ยนเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม” ― Madonna
3. “การพัฒนาวันละเล็ก วันละน้อยทุก ๆ วัน เมื่อเวลาผ่านไปนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้” ― Robin Sharma
4. “หากปราศจากการเติบโตและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง คำพูดเช่น การพัฒนา ความสำเร็จ และความสำเร็จจะไม่มีความหมาย” ― Benjamin Franklin
5. “เคล็ดลับในการได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนคือการไม่หยุดการพัฒนา” ― James Clear
6. “ความเป็นเลิศไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่อยู่ที่การเดินทางที่ต่อเนื่องอย่างไม่สิ้นสุด” ― Brian Tracy
7. “ความสามารถจะพัฒนาและปรับปรุงตัวเองเป็นสิ่งที่แบ่งแยกความแตกต่างระหว่างผู้นำกับผู้ตาม” ― Bennis and Nanus
8. “การพัฒนาตนเองเป็นความเชื่อว่า ตัวเองมีค่าพอสำหรับความพยายาม เวลา และพลังงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาตัวเอง ความเชื่อแบบนี้จะทำให้เราลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง” ― Denis Waitley
9. “จงพยายามพัฒนาตนเอง เราไม่สามารถหยุดอยู่นิ่งได้ เพราะเราจะต้องก้าวไปข้างหน้าหรือจะถอยหลังลงคลองเสมอ” — Mme. Du Defand
10. “งานของแต่ละคนในชีวิตคือการเป็นคนที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ” — Leo Tolstoy
บทสรุป
การพัฒนาตนเองเป็นวิถีชีวิตที่จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปกับเราเพื่อไปสู่ความสำเร็จทุกด้านของชีวิตและความสุขที่ได้เห็นตัวเองเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น
ด้วยมันเป็นวิถีชีวิต เราต้องยอมรับว่า การพัฒนาตนเองนั้นเป็นการเดินทางที่ยาวไกล เราต้องทำมันอย่างสม่ำเสมอ และตลอดไป จนกว่าชีวิตนี้ของเราจะจบลง
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตก็ต้องพัฒนาเติบโต นี่คือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต
“กุญแจสู่การเติบโตคือการยึดมั่นและพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนาตนเองทุกวัน”
และเราทุกคนมีสิทธิที่จะพัฒนาตนเองได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อายุเท่าไหร่ สถานะอะไร ทำอาชีพอะไร หรือเพศอะไรก็ตาม
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะจุดประกายหรือทำให้เพื่อน ๆ ได้ไอเดียบางอย่างที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาชีวิตของตัวเองนะครับ (ผมตั้งใจเขียนจริง ๆ นะครับ)
สำหรับใครอยากหาหนังสือพัฒนาตนเองอ่าน ผมได้รวบรวม 10 หนังสือพัฒนาตนเองที่ดีที่สุด พร้อมสรุปให้ด้วย สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ รวมหนังสือพัฒนาตนเอง
ตอนนี้คุณพร้อมที่จะพัฒนาตนเองแล้วหรือยัง?
ถ้าคำตอบว่า “ใช่”
เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยครับ สัญญากันแล้วนะครับ 👊
แล้วเจอกันที่ปลายทางของความสำเร็จครับ 💪
Leave a Comment