อยากรู้ไหมครับว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จของคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกที่มีเหมือนกันคืออะไร?
มันคือ นิสัยรักการอ่านหนังสือครับ
แต่คนที่ประสบความสำเร็จระดับสูงไม่เพียงแค่อ่านอะไรก็ได้ พวกเขาจะเลือกอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะอ่าน โดยเลือกอ่านเพื่อพัฒนาตัวเองมากกว่าที่จะอ่านเพื่อความบันเทิง
มีตัวอย่างให้เราเห็นมากมายที่ผู้ประสบความสำเร็จระดับสูงตัดสินใจลาออกจากการศึกษาในระบบ และชัดเจนว่าการลาออกนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดเรียนรู้ พวกเขายังคงเรียนรู้เหมือนเดิม แต่เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ การอ่านหนังสือ
และสำหรับพวกเขา การอ่านไม่ใช่แค่งานอดิเรก แต่เป็นวิถีชีวิต
ในบทความนี้ ผมจึงจะมาแบ่งปันมหาเศรษฐีหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก 7 คนที่มีนิสัยรักการอ่านหนังสือและเชื่อว่าการอ่านหนังสือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จและความมั่งคั่งของพวกเขา
หวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพื่อน ๆ ได้นะครับ 🙌
7 บุคคลผู้ประสบความสำเร็จที่มีนิสัยรักการอ่านหนังสือ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
ใช้เวลา 80% ของวันเพื่ออ่านโดยเฉพาะ
มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 5 ของโลก (ข้อมูล ณ 2022) ผู้ที่ร่ำรวยด้วยการลงทุน ที่รู้จักในนาม “Oracle of Omaha” เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล
(ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับความสำเร็จของเขาไว้ ถ้าใครสนใจ อ่านได้ที่นี่ 10 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จวอร์เรน บัฟเฟตต์)
ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามบัฟเฟตต์เกี่ยวกับหัวใจหลักสู่ความสำเร็จของเขา เขาตอบว่า คนคนนั้นควรอ่านอย่างน้อย 500 หน้าทุกวัน เขาอธิบายว่าสิ่งนี้จะทำเรามั่นใจได้ว่าความรู้จะเพิ่มพูน เขายังเสริมด้วยว่าโอกาสที่คนส่วนใหญ่จะทำได้เช่นนี้นั้นมีน้อยมาก
เมื่อเขาเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักลงทุน บัฟเฟตต์อ่านหนังสือประมาณ 600 ถึง 1,000 หน้าต่อวัน สิ่งนี้อาจจะดูเหมือนมากเกินไป แต่สำหรับเขา มันคือความสำคัญอันดับหนึ่งที่ต้องทำ บางวันเขาจะดูเอกสารทางการเงินจำนวน 500 หน้าและยังมีรายงานว่าเขาใช้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวัน (เรียกได้ว่า การอ่านคือการทำงานของเขาเลยก็ว่าได้)
“นั่นคือวิธีการทำงานของความรู้” เขาบอกชั้นเรียนการลงทุนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย “มันสร้างขึ้นเหมือนดอกเบี้ยทบต้น พวกคุณทุกคนก็สามารถทำได้ แต่ผมรับประกันว่าจะมีพวกคุณสักกี่คนที่จะทำมัน”
โดยสรุปแล้วเขาจะใช้เวลา 80% ของวันในการอ่าน อ่านหนังสือพิมพ์ รายงานของบริษัท และหนังสือเกี่ยวกับการเงินและธุรกิจ
คำแนะนำของเขาที่อยากฝากให้พวกเราคือ “ไม่ว่าในชีวิตนี้ คุณจะอยู่ที่ใด จงเรียนรู้ต่อไปแล้วคุณจะประสบความสำเร็จ”
บิล เกตส์ (Bill Gates)
อ่านหนังสือ 50 เล่มต่อปี
คงไม่มีใครไม่รู้จักบิล เกตส์ (และน้อยคนมากที่จะไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาอย่าง Microsoft) เขาถูกได้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จและเคยเป็นบุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปี แถมยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ใจบุญมากที่สุดคนหนึ่งในโลก
(ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับความสำเร็จของเขาไว้ ถ้าใครสนใจ อ่านได้ที่นี่ 10 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จบิล เกตส์)
เมื่อพูดถึงเขา หลายคนคงรู้ว่าเขาเป็นหนอนหนังสือตัวยง มีห้องสมุดเป็นของตัวเอง มักจะมีหนังสือติดตัวไปทุกที่ที่เขาไป
เขาเปิดเผยว่าเขาใช้เวลาอ่านหนังสือ 50 เล่มต่อปีหรือประมาณหนึ่งเล่มต่ออาทิตย์
หนังสือที่เขาอ่านเป็นหลักจะไม่ใช่นิยาย (อ่านบ้างบางครั้ง) แต่ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะเน้นหนังสือที่ตอบสนองความสนใจ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกใบนี้ เพื่อทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น เช่น หนังสือที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข โรค วิศวกรรม ธุรกิจ และวิทยาศาสตร์
ในการให้สัมภาษณ์ของ Forbes พ่อของ Bill Gate บอกว่า ลูกชายของเป็นหนอนหนังสือตัวยงเลยแหละ ถึงขั้นมีครั้งหนึ่ง บิลอ่านมากจนแม่ต้องตั้งกฎว่า “ห้ามอ่านหนังสือบนโต๊ะอาหาร” (เขาคลั่งไคล้การอ่านมากจริง ๆ ครับ)
นอกจากนั้น เขายังเน้นย้ำว่า การอ่านหนังสือเป็นวิธีหลักในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ของเขา เขาเคยพูดเรื่องนี้ไว้กับ Business Insider ว่า “ทุกวันนี้ ผมยังไปสถานที่ที่น่าสนใจ พบปะกับนักวิทยาศาสตร์ และยังดูบรรยายออนไลน์อีกมาก แต่การอ่านยังคงเป็นวิธีหลักที่ใช้ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ และทดสอบความเข้าใจของผมครับ”
บิล เกตส์ยังได้แบ่งปันหนังสือที่เขาอ่านและอยากแนะนำไว้ในบล็อกส่วนตัวของเขา เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ “GatesNotes”
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)
อ่านหนังสืออย่างน้อยหนึ่งเล่มทุกสองสัปดาห์
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ที่เราทุกคนล้วนใช้บริการเขา มาร์คเชื่อในเรื่องการอ่าน เขาเชื่อว่าหากคุณต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต คุณต้องมุ่งมั่นที่จะเติบโตและพัฒนาตนเอง
ในปี 2015 เขาได้โพสต์ไว้บน Facebook ของเขาว่า “จะอ่านหนังสือ 1 เล่มทุกสัปดาห์ โดยเน้นไปที่หนังสือเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และเทคโนโลยี”
และเน้นย้ำว่า “หนังสือช่วยให้คุณสามารถสำรวจหัวข้อได้อย่างเต็มที่และดื่มด่ำกับวิธีที่ลึกซึ้งกว่าสื่อส่วนใหญ่ในปัจจุบัน” เขาเขียนต่อ “ผมตั้งตารอที่จะเปลี่ยนการเสพสื่อของผมไปสู่การอ่านหนังสือ”
โอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey)
การอ่านเป็นสัญญาณแห่งความสำเร็จ
ถ้าจะพูดถึงพิธีกรรายการทอล์คโชว์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก คงจะหนีไม่พ้นเธอคนนี้ โอปราห์ วินฟรีย์
แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า เธอเป็นนักอ่านตัวยงเลยแหละ จนต้องตั้งชมรมหนังสือที่ชื่อว่า “Oprah’s Book Club” ขึ้นมา ซึ่งหนังสือที่ถูกแนะนำในชมรมนี้ มักจะกลายเป็นหนังสือที่ขายดีขึ้นมาในทันที (เช่น The Power of Now)
ในเว็บไซต์ของเธอ เธอเล่าว่าหนังสือทำให้เธอมีความสุขและให้เครดิตว่าความสำเร็จของเธอส่วนใหญ่มาจากการอ่าน และที่สำคัญเธอบอกว่า “หนังสือคือเส้นทางสู่อิสรภาพของฉันค่ะ”
เพราะชีวิตของเธอไม่ง่ายเลย เริ่มต้นอาชีพด้วยความยากลำบาก เธอบอกว่าหนังสือทำให้เธอได้จินตนาการที่ไกลกว่าสภาพเป็นอยู่ปัจจุบัน หนังสือมอบโอกาสให้เธอมองไปข้างหน้า มีความหวังและทำให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยเธอใช้ช่วงเวลาช่วงค่ำสำหรับการอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายสำหรับการทำงานทั้งวันของเธอ
อีลอน มัสก์ (Elon Musk)
หนังสือได้เลี้ยงดูผมขึ้นมา
อีลอน มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 1 ของโลก และถ้าจะบอกว่าเขาเป็นชายที่อยู่หน้าสื่อมากที่สุดในโลกในทุกวันนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้
แต่เส้นทางก่อนที่จะเข้ามาถึงขนาดนี้ได้ ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็น CEO ของ Tesla หรือแม้แต่ก่อนจะสร้าง Paypal หนุ่ม Elon Musk เป็นนักอ่านตัวยง เรียกได้ว่าหนอนหนังสือตั้งแต่เด็ก ๆ
ในสมัยเด็กเขาถูกรังแก เขาจึงรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่คนเดียว จึงมีเวลาในการอ่านหนังสือ โดยเขาได้อ่านนิยายวิทยาศาสตร์ถึง 10 ชั่วโมงในหนึ่งวัน และในช่วงวัย 9 ขวบเด็กน้อยคนนี้ได้อ่านสารานุกรมบริแทนนิกา (Encyclopædia Britannica) ซึ่งเป็นสารานุกรมให้ความรู้ทั่วไป เขาอ่านมันทั้งเล่ม จนจบหมด (มีประมาณ 3 หมื่นหน้า!) จริง ๆ เขาบอกว่านี่ใช่ว่าเขาอยากอ่าน แต่เพราะไม่มีอะไรจะให้อ่านแล้ว เขาอ่านทุกอย่างที่มีจนหมด
เวลาไปไหนมาไหน เขาก็จะอ่านมันทุกที่ ในการสัมภาษณ์ปี 2014 เขาบอกผู้สัมภาษณ์ว่า แม้ระหว่างเที่ยว เขาก็จะอ่านหนังสือเสมอ อ่านใน iPhone ที่จอเล็ก ๆ ในสมัยนั้น
เขายังชอบอ่านหนังสือประเภทชีวประวัติ ในปี 2011 เขาเคยได้ Tweet แนะนำหนังสือไว้ว่า “ผมกำลังอ่านหนังสือชีวประวัติที่ยอดเยี่ยมของ Ben Franklin ที่เขียนโดย Isaacson ผมแนะนำอย่างยิ่งครับ”
อีลอน มัสก์ให้เครดิตกับการอ่านหนังสือมีผลต่อความสำเร็จของเขาอย่างมาก ในการสัมภาษณ์กับนิตยสารแห่งหนึ่ง เขาบอกว่า “หนังสือได้เลี้ยงดูเขาขึ้นมา” ดังนั้นชีวิตของเขาได้รับอิทธิพลหนังสืออย่างมาก
และเมื่อถูกถามว่า เขาเรียนรู้วิธีสร้างจรวดได้อย่างไร มัสก์ตอบสั้น ๆ ด้วยประโยคว่า “ผมอ่านหนังสือ”
เขาเรียนรู้วิธีสร้างจรวดโดยการอ่านหนังสือ
เขาเป็นคนที่เรียนรู้ด้วยตนเองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเขาต้องการจะรู้อะไร เขาก็แค่ไปหยิบหนังสือเกี่ยวกับเรื่องขึ้นมาอ่าน
เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin)
การอ่านหนังสือทำให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
เศรษฐีคนแรกของอเมริกาและหนึ่งในรัฐบุรุษผู้สร้างชาติอเมริกา เขาเป็นนักอ่านตัวยง หลงใหลในหนังสือและซื้อมันตลอดเวลา ในอัตชีวประวัติของเขา เขาได้เขียนไว้ว่า “ตั้งแต่เด็ก ผมชอบอ่านหนังสือ แม้ได้รับเงินจำนวนน้อยนิด ผมก็จะนำไปซื้อหนังสือ”
เขามีกฎเกณฑ์การพัฒนาตัวเองที่เข้มงวด เขาจะตื่นนอนช่วงตี 5 ของทุกวัน และจะอ่านหนังสือเพื่อรับความรู้ก่อน 8 โมงเช้า
การอ่านทำให้เขากลายเป็นผู้รอบรู้ เขาสามารถมีความสามารถในหลาย ๆ ด้าน ก็เพราะการอ่าน เขาเป็นทั้งนักเขียน นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ (เช่น ประดิษฐ์สายล่อฟ้า) เป็นรัฐบุรุษ นักการทูต ผู้ประกอบการ และนักปรัชญาการเมือง
ถ้าปราศจากการอ่าน คงยากที่เขาจะทำอะไรได้หลากหลายขนาดนี้
และเขายังเป็นหนึ่งบุคคลที่เป็นไอดอลให้กับอีลอน มักส์ “แฟรงคลินเป็นหนึ่งในคนที่ผมชื่นชมมากที่สุดครับ” – อีลอน มัสก์
โทนี่ ร็อบบินส์ (Tony Robbins)
อ่านหนังสือมากกว่า 1,000 เล่มก่อนอายุ 19
โทนี่ ร็อบบินส์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจอันดับหนึ่งของโลก เขาเติบโตมาด้วยครอบครัวที่ยากจน และยากลำบาก เขาให้เครดิตว่านิสัยรักการอ่านหนังสือได้ช่วยชีวิต เป็นนิสัยที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต และทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
ย้อนไปสมัยที่เขาอยู่ชั้นมัธยม เขาได้ตัดสินใจเรียนหลักสูตรการอ่านเร็วและเริ่มเสพหนังสือเกือบ 700 เล่มในโรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับจิตวิทยาและการพัฒนาตัวเอง เช่น As A Man Thinketh, Think And Grow Rich และเมื่อเขาอายุได้ 19 เขาก็อ่านหนังสือไปแล้วกว่า 1,000 เล่ม
การเรียนหลักสูตรการอ่านเร็วเปลี่ยนชีวิตและจุดประกายเขา มันทำให้เขามีทักษะในการเร่งการเรียนรู้ และการพัฒนาตัวเอง
แทนที่เราจะไปเสียเวลาหลายชั่วโมง หลายวัน หรือแม้แต่หลายเดือนในการไปหาข้อมูล เรียนรู้เอง สู้เราไปถามคนเชี่ยวชาญเพียงไม่กี่ประโยค ก็สามารถย่นระยะเวลาการเรียนรู้ของเราได้มหาศาล
บทสรุป
การอ่านเป็นรากฐานสำคัญของความรู้ทั้งหมด เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาตัวเองและการประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต
จะเห็นว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนเป็นมีนิสัยรักการอ่านหนังสือ เพราะเขาจะไปได้ไกลกว่าคนอื่นไม่ได้ ถ้าเขายังเสพเท่ากับคนอื่น ๆ เสพกัน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ นะครับ
แล้วพบกันที่ปลายทางของความสำเร็จครับ! 💪
Leave a Comment