20 สิ่งที่ต้องรู้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จเร็วขึ้น (และมีความสุข)!

⭐ 20 สิ่งถ้ารู้แล้ว จะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น แถมมีความสุขด้วย!

สวัสดีครับ👋

ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ใครสนใจ อย่าลืมไปติดตามกันได้นะครับ : ) 🙏
blank
ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ถ้าเพื่อน ๆ กดติดตาม ผมจะรู้สึกดีมากครับ
blank

การประสบความสำเร็จ (Successful) สิ่งที่หลายคนปรารถนา (รวมทั้งตัวผมด้วย) แต่ความสำเร็จไม่ได้จำเป็น เป็นแค่เรื่องของตัวเงินหรือความร่ำรวยเท่านั้น ความสำเร็จยังมีอีกหลากหลายมิติ เช่น มิติของความสุข ความหมายของชีวิต และไม่มีตายตัว ซึ่งบทความนี้ผมพยายามแบ่งปันความสำเร็จในหลายมิติ

บทความนี้ไม่ได้เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัว แต่เป็นการรวบรวมจากหลาย ๆ ข้อมูลที่ได้อ่านหนังสือมา 200 กว่าเล่ม การฟังวิดีโอ และจากที่เห็นตาม social media ต่าง ๆ (สามารถดูรายชื่อหนังสือที่ผมอ่านได้ที่ หนังสือที่อ่านแล้ว และที่ได้ทำการสรุปไว้ได้ที่ หนังสือที่สรุปแล้ว)

จากประสบการณ์ทั้งหมด ผมได้รวบรวมและตกผลึกออกมาเป็นบทความนี้ ซึ่ง ณ ตอนนี้มีทั้งหมด 20 ข้อ แต่ในอนาคตจะคอยมีการอัปเดตพิ่มเนื้อหาไปเรื่อย ๆ ตามประสบการณ์ที่ได้ตกผลึก เพราะผมอยากให้บทความนี้เป็นเสมือนไดอารี่

ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือเห็นตรงกันทุกข้อ แต่หลังจากอ่านจบแล้ว ผมหวังแค่ว่าจะสักหนึ่งประโยค สักข้อที่สามารถทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกเกิดแรงบันดาลใจได้

ผมหวังว่าเพื่อน ๆ จะได้รับประโยชน์จากบทความนี้จริง ๆ นะครับ 🙏

ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านนะครับ

มาดูกันครับว่าจะมีอะไรบ้าง? 😊

Table Of Contents
  1. ข้อที่ 1 ความสำเร็จ ไม่มีนิยามตายตัว
  2. ข้อที่ 2 เลือกเลนแห่งความสำเร็จของตัวเอง
  3. ข้อที่ 3 ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
  4. ข้อที่ 4 ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องศึกษาความสำเร็จ
  5. ข้อที่ 5 การตั้งเป้าหมายสำคัญต่อทุกความสำเร็จ
  6. ข้อที่ 6 เราทุกคนล้วนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ
  7. ข้อที่ 7 ความสำเร็จเป็นเรื่องของตัวเลข
  8. ข้อที่ 8 อย่าหวังเพิ่ง “โชค” มากนัก
  9. ข้อที่ 9 สร้างชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน
  10. ข้อที่ 10 เราจะผิดพลาด ล้มเหลว ในระหว่างทางสู่ความสำเร็จ
  11. ข้อที่ 11 เราคือผู้รับผิดชอบความสำเร็จ ความล้มเหลวของตัวเอง
  12. ข้อที่ 12 อยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องบ่มเพาะนิสัยแห่งความสำเร็จนั้น ๆ ขึ้นมา
  13. ข้อที่ 13 เรียนรู้ตลอดชีวิต
  14. ข้อที่ 14 ความสำเร็จมีราคาที่ต้องจ่าย
  15. ข้อที่ 15 อยู่ในสิ่งแวดล้อมแห่งความสำเร็จ
  16. ข้อที่ 16 ความเชื่อคือจุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จ
  17. ข้อที่ 17 ผู้คนมักมองไปที่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวมากกว่าจะมองที่กระบวนการ
  18. ข้อที่ 18 ความสำเร็จ = การเพิ่มคุณค่าแก่ผู้คน
  19. ข้อที่ 19 การรู้ความหมายของชีวิต ช่วยเร่งความสำเร็จ
  20. ข้อที่ 20 ลงมือทำ ลงมือทำ ลงมือทำ!
  21. ก่อนจากกัน

ข้อที่ 1 ความสำเร็จ ไม่มีนิยามตายตัว

คำว่า “ความสำเร็จ” นั้น นิยามความหมายของทุกคนล้วนแตกต่างกัน ไม่เท่ากัน และไม่จำเป็นต้องมีแค่นิยามเดียว

ความสำเร็จบางคนอาจจะเป็นการมีเงิน 10 ล้าน บางคนอาจจะแค่สามารถเลี้ยงดูครอบครัว บางคนอาจจะแค่ได้เห็นคนที่เรารักมีรอยยิ้ม มีความสุข บางคนอาจจะไม่ต้องการเงินมากมาย แต่ต้องการการยอมรับจากสังคม บางคนอาจจะบอกว่าความสำเร็จ คือ การที่ได้สร้างบริษัทแล้วสร้างผลกระทบต่อสังคม บางคนอาจจะเป็นการได้แบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ และหวังว่าผู้คนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น (ผมหนึ่งในนั้นครับ)

ความสำเร็จ คือ อัตวิสัย (อัตวิสัย คือ มุมมองเฉพาะของคนคนนั้น แต่ละคนจะมีอัตวิสัยในการมองความสำเร็จต่างกัน)

ความสำเร็จไม่ได้มีอยู่ก่อน เราต่างหากคือผู้สร้างและนิยามความสำเร็จนั้นขึ้น

เราจะสำเร็จด้วยนิยามของตัวเอง หรือคนอื่น เราต้องเลือก เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อเราไม่มีนิยามความสำเร็จของตัวเอง เราอาจจะผิดหวังเมื่อพอไปถึงความสำเร็จ แล้วรู้ตัวอีกทีว่ามันไม่ใช่ความสำเร็จที่เราปรารถนาเลย

ชีวิตไม่ใช่การลองเสื้อผ้า เรามีแค่ครั้งเดียว นิยามความสำเร็จให้ดี

ข้อที่ 2 เลือกเลนแห่งความสำเร็จของตัวเอง

เราทุกคนต่างมีเส้นทางที่เป็นของตัวเราเองที่จะเดินทางไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ความสำเร็จไม่ได้เป็นเรื่องของการแข่งขันกับคนอื่น แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเราเองต่างหาก

แข่งขันกับตัวเราคนเมื่อวาน

การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต คือ การต่อสู้กับตัวเอง หาใช่คนอื่นไม่

เพราะชีวิตไม่ได้มีแบบเดียว เส้นทางสู่ความสำเร็จ ไม่ได้มีเพียงเส้นทางเดียว

ความสำเร็จในอดีตก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้กับความสำเร็จในปัจจุบัน เช่นกัน เส้นทางของคนอื่น ใช่ว่าจะสามารถใช้กับเราได้

มันคือเส้นทางชีวิตที่เราคือผู้กำหนดชีวิตเราเอง จงมองหา และเลือกเลนที่จะวิ่ง หรือถ้าไม่มีเลนให้เลือก เราก็ต้องสร้างเลนนั้นขึ้นมา

อย่าไปวิ่งในเลนของคนอื่น มันไม่ค่อยสนุกครับ

ข้อที่ 3 ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน

มนุษย์เรามีแนวโน้มตามธรรมชาติที่จะเลือกวิธีที่สั้น ไม่ต้องใช้ความพยายาม และง่ายที่สุด แต่ถ้ามองตามความจริง สิ่งเหล่านั้นยากที่จะเกิดขึ้นจริงได้ ทุกสิ่งล้วนต้องผ่านกระบวนการบ่มเพาะ จึงจะงอกเงยได้

ทุกความสำเร็จที่เราเห็น เราเห็นแค่ผลลัพธ์ของพวกเขาเท่านั้น เปรียบเสมือนอาหารที่สุกของเชฟมืออาชีพ แต่เรามักไม่เห็นกระบวนการทำอาหารนั้น ว่าต้องใช้เวลา ใช้ความอดทน เรียนรู้ กดดัน ผิดพลาด ผิดหวัง ฝึกฝน กว่าจะออกมาเป็นอาหารที่สุกสมบูรณ์และอร่อยได้

อย่ารีบจะทำอาหารให้สุกเร็วเกินไป จงสนุก ชื่นชมกับกระบวนการปรุงอาหารชีวิต

เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน มันคือการสะสมความก้าวหน้าวันละเล็ก วันละน้อย

ทุกความสำเร็จชั่วข้ามคืน เกิดจากความเพียรอุตสาหะที่สั่งสมมานานหลายปี

ข้อที่ 4 ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องศึกษาความสำเร็จ

เราเป็นเช่นสิ่งที่เราเสพ สิ่งที่เราเสพวันนี้ จะกลายเป็นเราในวันข้างหน้า เช่นกัน สิ่งที่เราเป็นวันนี้ คือ สิ่งที่เราเสพในอดีต ดังนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เราก็ต้องป้อนข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จเข้ามาในตัวให้มาก ๆ

วิธีหนึ่งที่ดีที่สุด คือ เราต้องมีต้นแบบแห่งความสำเร็จ (Role model)

จงมองหาคนที่เป็นต้นแบบ จับจ้องคนที่อยากจะเป็น แล้วศึกษา สังเกต วิเคราะห์แนวคิดของพวกเขา พวกเขาอ่านอะไร ฟังอะไร มีต้นแบบเป็นใคร มีรูทีนในชีวิตยังไง ค่อย ๆ ลองปฏิบัติ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เรียกว่า “พัฒนาจากจุดที่ดีที่สุดเพื่อกลายเป็นเราในเวอร์ชันที่ดีที่สุด”

เราจะเป็นเหมือนคนที่เราชื่นชม และต้นแบบที่เราทำตาม จงเลือกให้ดี

ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนใด ที่ไม่เรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์และสำเร็จมาก่อน

แทบทุกคนล้วนเริ่มต้นจากเห็นใครสักคนเป็นฮีโร่ แล้วฝันว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นเช่นคนนั้น

ทุกความสำเร็จทิ้งร่องรอยไว้ให้เราได้แกะรอยเสมอ ดังนั้น ถ้าอยากสำเร็จ ก็ต้องแกะร่องรอยของสำเร็จนั้น ๆ

ข้อที่ 5 การตั้งเป้าหมายสำคัญต่อทุกความสำเร็จ

เป็นไปไม่ได้ที่จะออกเดินทางแล้วไม่รู้จุดมุ่งหมาย เป็นไปไม่ได้ที่เราจะประสบความสำเร็จ โดยไม่รู้ว่าจุดที่ประสบความสำเร็จอยู่ตรงไหน

เราคงไม่คิดจะออกเดินทางโดยไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหน และไม่มีแผนที่เส้นทางนั้น

เป้าหมาย คือ จุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จ ยิ่งเราใช้เวลากับการตั้งเป้าหมายมากเท่าไหร่ เรายิ่งจะชัดเจนในหัว และเดินไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น

เป้าหมายมีข้อดีมากมาย แต่ที่ชัดที่สุด คือ ช่วยเปลี่ยนคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ให้ “เป็นไปได้ขึ้นมา”

เป้าหมาย คือ สะพานเชื่อมระหว่าง “ตัวเราในปัจจุบัน” กับ “ความสำเร็จในอนาคต”

ความสำเร็จสร้างขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้ ความสำเร็จจะมีรูปร่างหน้าตายังไง

เริ่มตัดสินใจเลือก แล้วตั้งเป้าหมายตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเราจะสัมผัสและรู้สึกใกล้ชิดกับความสำเร็จ

ข้อที่ 6 เราทุกคนล้วนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ

เราทุกคนล้วนเคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน และเด็กแต่ละคนที่เกิดขึ้นมาล้วนได้รับเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมจะเติบโตไปสู่ความสำเร็จได้

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอกไว้ว่า “มนุษย์เรานั้นใช้พลังแฝงอันแท้จริงของตัวเองอยู่เพียง 10%”

เรามีเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จอยู่ในตัวอยู่แล้ว มีอะไรซ่อนอยู่ในตัวเรามากกว่าที่เราเห็นด้วยตาเปล่า มันเฝ้ารอให้เราบ่มเพาะให้เติบโตอยู่

เช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่น ถ้ามนุษย์คนอื่นทำได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน ต่างกันแค่เราต้องรู้วิธี

จงขยายเส้นขอบฟ้าแห่งความสำเร็จ จงใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความเชื่อที่ว่า “เราไปได้ไกลกว่าตอนนี้ และเราไปได้”

ข้อที่ 7 ความสำเร็จเป็นเรื่องของตัวเลข

กฎของความสำเร็จ คือ ยิ่งทำมาก โอกาสก็จะยิ่งมาก

เราสามารถเพิ่มระดับความน่าจะเป็นของความสำเร็จได้ด้วยการลงมือให้มากกว่าผู้ประสบความสำเร็จอื่น ๆ ได้เคยทำไว้

ถ้าตามทฤษฎีหลายคนคงเคยได้ยิน กฎ 10,000 ชั่วโมง ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่ต้องสนใจจำนวนชั่วโมง สนแค่การลงมือทำไปเรื่อย ๆ ก็พอ

จงเชื่อในกฎของการทำให้มากกว่าค่าเฉลี่ย ลงมือทำให้มากกว่าคนอื่น อ่านและฟังให้มากกว่าคนอื่น ล้มเหลวให้มากกว่าคนอื่น

ยิ่งลงมือทำมันทิศทางที่ถูกต้องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จ แสดงว่าเรายังทำไม่ถึงจำนวนที่มากพอ จงทำไปเรื่อย ๆ ทำให้มากกว่าคนอื่น

ข้อที่ 8 อย่าหวังเพิ่ง “โชค” มากนัก

โชค คือ สิ่งที่เราต้องสะสม อย่าคาดหวังว่ามันจะเดินมาหาเรา เราต้องสร้าง และสะสมโชคไปเรื่อย ๆ

สะสมโชค + การตื่นตัว + โอกาส = โชคดี (ความสำเร็จ)

เพราะชีวิตไม่มีคำว่าบังเอิญ ทุกสิ่งล้วนมีเหตุมีผลในตัวของมัน

อย่ารอคอยโชค เพราะไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่หรืออาจจะไม่มีเลยทั้งชีวิตนี้ แต่จงสะสมโชคด้วยการลงมือทำให้มาก

ข้อที่ 9 สร้างชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน

ไม่ต้องรอความสำเร็จที่สมบูรณ์ยิ่งใหญ่ เราสามารถมีความสุขกับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เป้าหมาย แต่เกิดขึ้นในระหว่างทางไปสู่เป้าหมายต่างหาก

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ในบรรดาแรงจูงใจทุกประเภทของมนุษย์ ความก้าวหน้า คือ แรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะความก้าวหน้าเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นรูปธรรม จะสร้างแรงส่งและให้ความเชื่อมั่นแก่เราว่าเราจะไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว วันละนิด เฉลิมฉลองกับก้าวเล็ก ๆ ที่ก้าวหน้า แล้วเราจะสนุก และมีกำลังใจกับชีวิตมากขึ้น

บรรดาฮี่โรทุกคนเบื้องหลังล้วนผ่านกระบวนการกระทำเล็ก ๆ ในแต่ละวันอย่างคงเส้นคงวา

ข้อที่ 10 เราจะผิดพลาด ล้มเหลว ในระหว่างทางสู่ความสำเร็จ

ข้อเท็จจริงของชีวิต คือ ความล้มเหลวผิดพลาดเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น มันจะโจมตีเราไม่วันใดก็วันหนึ่งเสมอ

ยิ่งเรายอมรับสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นธรรมชาติบนเส้นทางสู่ความสำเร็จได้ เรายิ่งจะเดินหน้าก้าวสู่ความสำเร็จได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

เพราะชีวิตจริง เราต่างจะต้องผิดพลาด ล้มเหลว ผิดหวัง เจ็บปวด ถึงจะเติบโตได้ แต่ต้องไม่ยกธงขาวยอมแพ้เด็ดขาด

จงแปรเปลี่ยนความผิดพลาดให้เป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จ

ทุกความล้มเหลว ทิ้งเชื้อของความสำเร็จไว้เสมอ จงหยิบเชื้อนั้นมาเป็นวัตถุดิบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในอนาคต

เมื่อใดที่ผิดพลาด แสดงว่าเราเข้าใกล้ความสำเร็จมากยิ่งขึ้น จงสะสมบทเรียนจากความผิดพลาด อย่าปล่อยให้เป็นการผิดพลาดที่สูญเปล่า

ความล้มเหลว คือ ส่วนหนึ่งของกระบวนการประสบความสำเร็จ - โรเบิร์ต คิโยซากิ Robert T. Kiyosaki

ข้อที่ 11 เราคือผู้รับผิดชอบความสำเร็จ ความล้มเหลวของตัวเอง

ภารกิจแรกของชีวิต คือ การสัญญากับตัวเองว่า จะยืดอกรับผิดชอบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราอย่าง 100%

เพราะการยอมรับ เราจึงจะเดินหน้าได้ เมื่อไม่ยอมรับ ก็ยากที่จะเดินหน้าต่อไป เมื่อเดินหน้าต่อไปยาก ก็ย่อมไม่เข้าใกล้ความสำเร็จ

จุดเริ่มต้นของผู้ประสบความสำเร็จทุกคน คือ การยอมรับทุกสิ่งที่โยนเข้ามาใส่ชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย

เพราะเมื่อใดที่ยอมรับความรับผิดชอบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เราก็จะมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ๆ ที่เกิดขึ้นได้

หยุดเป็นเหยื่อของสถานการณ์ แล้วมองไปที่กระจกบอกตัวเองว่า “ไม่มีใครรับผิดชอบความสำเร็จหรือความล้มเหลวได้ นอกจากตัวเราเอง”

เมื่อมีความฝัน ก็จงรับผิดชอบต่อความฝันนั้นของตนเอง เพราะความสำเร็จและความล้มเหลวขึ้นอยู่กับเรา

ข้อที่ 12 อยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องบ่มเพาะนิสัยแห่งความสำเร็จนั้น ๆ ขึ้นมา

ความสำเร็จและความล้มเหลว คือ ผลลัพธ์ของนิสัยที่ได้สร้างขึ้นมาในอดีต

เราคือกล้ามเนื้อของนิสัย และนิสัยคือเรา ถ้าเรามีนิสัยแห่งความสำเร็จ เราก็ย่อมจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ เพราะทุกความสำเร็จคือการทำซ้ำจนเป็นวินัย เมื่อกลายเป็นวินัยก็จะกลายเป็นนิสัย

สิ่งที่ทำในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จในชีวิต นิสัยจึงเป็นตัวเปลี่ยนเกม อยากเปลี่ยนชีวิต ให้เปลี่ยนนิสัย

วิธีการบ่มเพาะนิสัยแห่งความสำเร็จ 3 ขั้น คือ

  1. ศึกษาจากคนที่ประสบความสำเร็จว่าพวกเขามีนิสัยยังไง
  2. เลือกนิสัยหนึ่งขึ้นมาแล้วจัดเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวัน
  3. ทำมันซ้ำ ๆ ทุก ๆ วัน จนกว่าจะรู้สึกว่าอึดอัด เมื่อไม่ได้ทำมัน

จงเริ่มบ่มเพาะนิสัยแห่งความสำเร็จ แล้วมันจะทำงานสร้างความสำเร็จให้เรา

ข้อที่ 13 เรียนรู้ตลอดชีวิต

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง คือ คุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่สุดสำหรับทุกความสำเร็จ

เพราะความรู้ช่วยขยายขอบเขตความกว้างของความคิด และไอเดียใหม่ ๆ ที่เป็นเหมือนคันเร่งเพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จ

ทุกความสำเร็จมีรากฐานมาจากการเรียนรู้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยปราศจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ

วิธีการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ อ่านให้มาก ฟังให้มาก และสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ขึ้นมา เช่น ฟัง Podcast ทุกเวลาที่อยู่ระหว่างทาง พกหนังสือติดตัวเสมอ 1 เล่ม

สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด คือ ตัวเราเอง

จงตัดสินใจตั้งแต่วันนี้ว่า เราจะเป็นนักเรียนที่อุทิศตัวเองให้กับการเรียนรู้ตลอดชีวิต คิดเสียว่าอนาคตของเราขึ้นอยู่กับมัน

ข้อที่ 14 ความสำเร็จมีราคาที่ต้องจ่าย

โลกนี้ไม่มีคำว่า “ฟรี” เราจะได้อย่างเสียอย่างเสมอ นี่คือสัจธรรม

โดยเฉพาะ “ความสำเร็จ” เราต้องเต็มใจเสียสละบางอย่าง เพื่อจะสำเร็จ

หากอยากประสบความสำเร็จ เราก็ต้องยอมแลกเปลี่ยนของสำคัญ ๆ อยู่เสมอ และหากไม่ยอมแลกเปลี่ยนอะไร ก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

เพราะชีวิตคือการแลกเปลี่ยน เราแลกความขยัน ความมุ่งมั่นเพื่อจะได้ประสบความสำเร็จ เราแลกเวลาที่จะไม่ดู Netflix เพื่ออ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง เราแลกเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบากเพื่อไปลงเรียนคอร์สเพื่อพัฒนาทักษะ

อยากได้ความสำเร็จชิ้นใหญ่ ก็ต้องยอมลงแรงมากเป็นพิเศษ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา ว่าพอใจแลกในระดับไหน

แต่ใช่ว่าทุกการแลกเปลี่ยนจะดีเสมอไป เช่น การแลกเปลี่ยนด้วยการอดหลับ อดนอน ไม่ให้เวลากับคนที่เรารัก เพื่อจะได้เอาเวลาไปทำงานให้หนักขึ้น จะได้ประสบความสำเร็จได้เร็ว สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ใช่การแลกเปลี่ยนที่น่าลงทุนนัก

การแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ดังนั้น ทุกการตัดสินใจเลือกสำคัญ เพราะเป็นจุดที่แยกระหว่างคนที่จะประสบความสำเร็จและล้มเหลวออกจากกัน

ความสำเร็จมีป้ายราคาติดอยู่ เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความพึงพอใจ

ข้อที่ 15 อยู่ในสิ่งแวดล้อมแห่งความสำเร็จ

มนุษย์เราคือแม่เหล็ก เราจะดึงดูดคนที่คล้ายคลึงกัน และผลักไสคนที่แตกต่างออกไปเสมอ

สภาพแวดล้อมของเรานั้นสำคัญ จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะมีแนวคิด มีพฤติกรรมยังไง เพราะสภาพแวดล้อมจะทำให้เรารู้สึกนึกถึงสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เราทำมาตลอด

ดังนั้น ถ้าเราเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมไปอยู่กับบุคคลที่ประสบความสำเร็จ มันก็จะเพิ่มโอกาสให้เรากล้าคิด มีแรงบันดาลใจ และเพิ่มโอกาสของความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

วิธีที่สร้างสิ่งแวดล้อมแห่งความสำเร็จที่ง่ายและทุกคนทำได้ คือ เข้าร้านหนังสือแล้วหยิบมาสักเล่ม

หนังสือ คือ สิ่งแวดล้อมแห่งความสำเร็จที่ถูกที่สุด เสมือนเราได้พูดคุย คลุกคลีกับนักเขียนหรือผู้ประสบความสำเร็จแล้ว

ความสำเร็จย่อมงอกงามขึ้นมาในบรรยากาศของความสำเร็จ ถ้าอยากเก่งก็ต้องไปคลุกคลีกับคนที่เก่งกว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ต้องคลุกคลีกับสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ

จงเลือกคลุกคลีกับคน และสิ่งที่เอื้อต่อความสำเร็จ

ข้อที่ 16 ความเชื่อคือจุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จ

ความสำเร็จเป็นของคนที่เชื่อมั่นความฝัน และทุ่มเทเพื่อความฝันนั้นอย่างมีทิศทางที่ถูกต้อง

ความเชื่อ คือ พลังงานที่ขับเคลื่อนให้มนุษย์สร้างสิ่งที่เป็นเพียง “ความฝัน” ให้กลายเป็น “ความจริง”

ถ้าปราศจากความเชื่อแล้ว อินเทอร์เน็ต มือถือ คอมพิวเตอร์ เครื่องบิน สิ่งเหล่านี้ คงจะเกิดขึ้นไม่ได้

ความเชื่อจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ ถ้าเปรียบร่างกายและจิตใจ คือ ตัวเรือ เป้าหมาย คือ เข็มทิศ ส่วนความเชื่อ คือ แรงที่จะพาย ก็คงยากที่เรือจะไปถึงจุดหมายได้ ถ้าปราศจากเรี่ยวแรงที่จะพาย ถึงแม้จะมีเข็มทิศที่ถูกต้อง และตัวเรือที่แข็งแกร่งก็ตาม

ความฝัน + ความเชื่ออย่างแรงกล้า = การกระทำ

ถ้าปราศจากความเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จแล้ว ก็ย่อมยากที่จะประสบความสำเร็จ เพราะมนุษย์เราเชื่ออย่างไร ก็จะได้อย่างนั้น เชื่ออย่างไรก็จะทำอย่างนั้น ทำอย่างไรก็จะได้รับอย่างนั้น

เพราะความเชื่อไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่เราเชื่อเท่านั้น ความเชื่อจะยังหล่อหลอมให้ว่าเราจะกลายเป็นคนแบบไหน

การเชื่อว่าเราสามารถประสบความสำเร็จ เป็นก้าวสำคัญของทุกการเดินทาง

จงเริ่มก้าวเท้าขวาออกไปด้วยความศรัทธา แม้จะไม่มีสิ่งใดจะรับประกันความสำเร็จ

ข้อที่ 17 ผู้คนมักมองไปที่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวมากกว่าจะมองที่กระบวนการ

ผลลัพธ์หาใช่สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จไม่ วิธีการ และกระบวนการต่างหากที่ทำ

หยุดคิดถึงผลลัพธ์แล้วให้จดจ่อที่วิธีการและกระบวน เพราะสิ่งใด ๆ ก็ตามล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นทีละขั้นทีละตอนทั้งนั้น

บางคราวความสำเร็จกว่าจะออกดอก ออกผลมาให้เชยชมต้องใช้เวลาแรมปี

ดังนั้น จงให้คุณค่าของกระบวนมากกว่าผลสำเร็จ เช่น เปลี่ยนจากว่าจะต้องประสบความสำเร็จ เป็นจะต้องอ่านหนังสือ ลงมือทำ พัฒนาตัวเอง พูดคุยกับคนที่เก่ง ๆ ให้มาก

ยิ่งเราจดจ่อที่ผลสำเร็จ ยิ่งรู้สึกมีความสุขน้อยลงทุกที แต่เมื่อเราจดจ่อที่กระบวน เราจะมีแรงจูงใจ และสนุกมากขึ้น

ผลสำเร็จ คือ ผลพลอยได้ กระบวนการต่างหาก คือ ตัวจริง

ข้อที่ 18 ความสำเร็จ = การเพิ่มคุณค่าแก่ผู้คน

ปริมาณความสำเร็จขึ้นอยู่ปริมาณที่เราเพิ่มคุณค่า และช่วยเหลือผู้คน

ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าผู้คน เราไม่สามารถประสบความสำเร็จโดยอยู่คนเดียว ความสำเร็จ คือ การแลกเปลี่ยนคุณค่า เราให้คุณค่าบางอย่างแก่ผู้คน ผู้คนให้ผลตอบแทนบางอย่างแก่เรา ดังนั้นความสำเร็จจึงขึ้นอยู่ว่า เรามีคนพร้อมที่จะมอบผลตอบแทนบางอย่าง เพื่อแลกเปลี่ยนคุณค่าที่เรามีบางอย่างให้

คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ล้วนพุ่งความสนใจไปในการช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน พวกเขาจะคิดเสมอว่ากำลังให้คุณค่า หรือแบ่งปันอะไรแก่ผู้คนบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้

อยากประสบความสำเร็จ ต้องเติมเต็มคุณค่าให้แก่ผู้คน ยิ่งเติมเต็มได้มากเท่าไหร่ ความสำเร็จก็จะยิ่งมากขึ้นและเร็วขึ้นเท่านั้น

ระดับและความเร็วของความสำเร็จ = คุณค่าที่เรามี และแบ่งปันให้ผู้คนมากเพียงใด

และคุณค่านี้จะฝังอยู่ในจิตใจผู้คน ถึงแม้ตัวเราลาจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม

ข้อที่ 19 การรู้ความหมายของชีวิต ช่วยเร่งความสำเร็จ

ความสำเร็จคงไร้ความหมาย ถ้ามันไม่มีความหมาย และไม่เติมเต็มหัวใจของเรา

ความหมายของชีวิตคืออะไร? อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต? เราเกิดมาเพื่อทำอะไรให้กับโลกใบนี้? เหตุผลใด ทำให้เราตื่นเต้นที่อยากจะตื่นเช้า เพื่อมาทำสิ่งนั้น?

ชีวิตเรียกร้องเหตุผลของการมีชีวิตอยู่กับเราเสมอ เรามีหน้ามอบความหมายนั้นให้แก่ชีวิต

ยิ่งเราค้นหาความหมายของการมีอยู่ของชีวิตเราได้เร็วเท่าไหร่ เรายิ่งมีเหตุผลและพลังที่จะลงทำมากเท่านั้น

ทุกวินาทีเรากำลังถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ จงเลือกสิ่งที่จะลงแรงให้ดีว่ามันมีความหมายอะไรต่อเรา และผู้คนอย่างไร

ข้อที่ 20 ลงมือทำ ลงมือทำ ลงมือทำ!

ทุกความสำเร็จเริ่มต้นที่ “การลงมือทำ”

ความสำเร็จจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีอาหารที่ชื่อว่า “การลงมือทำ”

การลงมือทำ ก็เปรียบเสมือน อาหารทั้ง 3 มื้อของเรา ต้องกินมันทุกวัน คงไม่มีใครที่เคยกินข้าว 3 มื้อ ทุกวัน แล้วจู่ ๆ ไม่กินสักมื้อเลย (ยกเว้นคนทำ IF หรือลดน้ำหนัก)

เช่นกัน การลงมือทำไม่ต่างจากอาหารที่เราต้องป้อนเข้าปากทุก ๆ วัน

ถ้าปราศจาก “การลงมือทำ” ทุกสิ่งอย่างจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้

ลุกขึ้นจากความฝัน ลุกขึ้นมาลงมือทำ ทำให้ฝันนั้นกลายเป็นความจริง

“Just do it!” แม้จะเป็นคำที่ทุกคนคุ้นเคย แต่มันก็ยังทรงพลังเสมอ

บอกตัวเอง ลงมือทำ ลงมือทำ ลงมือทำ!

ก่อนจากกัน

อ่านจบแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ มีชอบข้อไหนเป็นพิเศษไหมครับ?

หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะครับ และอย่าลืมแวะเข้ามาอ่านบ่อย ๆ นะครับ เพราะผมจะคอยอัปเดตเนื้อหาอยู่เสมอ 🙏

ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่มีสัญญาณสำหรับความสำเร็จที่ง่ายที่สุดที่อยากจะฝากไว้

“แค่เราสามารถยิ้มกับตัวเองได้ทุกวัน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว” 😊

อ่านจบแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง ช่วยบอกเราหน่อยครับ 🙏
52 responses
OMG
OMG
17
Love
Love
23
Like
Like
12
Sad
Sad
0
Dizzy
Dizzy
0
Sleepy
Sleepy
0