📚 สรุปหนังสือ ทิ้งนิสัยไม่ดีแล้วจะมีความสุข

👋 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้

มนุษย์เราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ นิสัยบางอย่างที่เรามีอยู่ตอนนี้ อาจจะเป็นตัวฉุดชีวิตเราอยู่

ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ใครสนใจ อย่าลืมไปติดตามกันได้นะครับ : )

ตอนนี้เรามีช่อง YouTube แล้ว! Podcast สำหรับคนรักหนังสือและการพัฒนาตัวเอง ถ้าเพื่อน ๆ กดติดตาม ผมจะรู้สึกดีมากครับ

หน้าที่ของเราคือ ต้องคอยสังเกตและกำจัดนิสัยเหล่านั้นให้น้อยลงเรื่อย ๆ เพราะยิ่งเรากำจัดนิสัยเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ ชีวิตของเรา ยิ่งจะมีความสุขและเบาสบายมากขึ้นเท่านั้น

😎 1 ประโยคที่ชอบที่สุดของหนังสือเล่มนี้

“ทิ้งเกณฑ์ความสำเร็จที่คนอื่นสร้างขึ้น แล้วหันมานิยามความสำเร็จในฉบับของตัวเอง”

สรุปหนังสือ ทิ้งนิสัยไม่ดีแล้วจะมีความสุข เขียนโดย Tokio Godo

• ตราบใดที่ยังไม่ทิ้งเรื่องเก่าก็ท้าทายเรื่องใหม่ไม่ได้
• สิ่งแรกที่ต้องทิ้งเดี๋ยวนี้ คือ คำพูดลบ ๆ “ฉันทำไม่ได้ เสี่ยงเกินไป ทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
• ทันทีที่คิดว่า ทำไม่ได้ หรือ เปล่าประโยชน์ สมองจะหยุดคิด เมื่อหยุดคิด เราก็จะไม่หาหนทาง
• เลิกใส่ใจกับความพยายาม แต่เน้นไปที่ผลลัพธ์
• เลิกพูดคำว่ายุ่ง ให้บอกตัวเองว่า ยังว่างแทน การบอกว่ายุ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและความไม่มั่นใจ
• เลิกพร่ำบ่น เพราะบ่นแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เสียเวลาเปล่า
• เลิกแก้ตัว ยืดอกแสดงความรับผิดชอบ แล้วจะได้รับความเชื่อถือ
• เลิกอ้างพร่ำเพรื่อ แต่จงอ้างด้วยหลักการที่เชื่อถือได้
• จงปล่อยวางจากคำเยินยอ และยกความดีความชอบให้คนรอบข้าง
• เลิกเอาความดีเข้าตัวเอง แล้วข่มคนอื่น
• ทิ้งคนที่ไม่จำเป็นในชีวิต แล้วใช้เวลากับตัวเอง
• อย่าเสียเวลามีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่ช่วยให้บรรลุเป้าหมาย
• การได้อยู่ลำพังเป็นต้นกำเนิดพลังสู่ความสำเร็จและเป็นการยอมรับว่าตัวเองรับผิดชอบทุกอย่างในชีวิต
• ทิ้งการเปรียบเทียบกับคนอื่น แล้วสร้างมาตรฐานความสุขฉบับของตัวเอง
• การมัวแต่เปรียบเทียบกับคนอื่นจะทำให้เราเสียเวลาและพลังไปอย่างเปล่าประโยชน์
• ทิ้งนิสัยทะนงตัว แล้วหันมาเปิดกว้าง พร้อมเรียนรู้จากคนอื่น
• ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้คนเราไม่ประสบความสำเร็จคือ การไม่รับฟังผู้อื่น
• ความนอบน้อมเป็นเครื่องมือนำเสนอตัวเองที่ทำได้โดยไม่ต้องลงทุน
• ทิ้งการเป็นคนดี เลิกใช้ชีวิตตามความพอใจของคนอื่น แล้วยืนกรานในสิ่งที่เชื่อ ในจุดยืนของตัวเอง
• การพยายามทำให้ทุกคนชื่นชอบ กลับเป็นไปได้ว่าสิ่งนั้นจะไม่หลงเหลืออยู่ในใจใครเลย
• ทิ้งการพยายามสร้างคอนเน็กชัน แล้วหันไปสร้างผลงาน จนคนอื่นรู้สึกอยากรู้จักเรา
• ทิ้งความคาดหวังให้อีกฝ่ายตอบแทนกลับ แล้วคิดเสียว่าทำเพราะสนุก มีความสุข หรือเป็นประโยชน์ก็พอ
• ทิ้งนิสัยอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง โดยไม่ลงมือทำ เพราะการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ จากการนำข้อมูลที่อ่านมาลงมือทดลองทำจริงกับตัวเองเท่านั้น
• ทิ้งการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย แล้วหันมาควบคุมการใช้จ่าย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิต
• ทิ้งนิสัยเก็บเงินไว้แล้วไม่ยอมใช้ หันมาลงทุนเพื่อต่อยอดเงินนั้นให้งอกเงย
• ปัญหาของการคิดแบบประหยัดและมุ่งแต่จะเก็บเงินคือ มักไม่คิดจะลงทุนเพื่อตัวเอง
• ทิ้งอดีตที่ไม่สร้างสรรค์ แล้วหันมาทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้น
• ทิ้งการใช้เวลาไปกับเรื่องที่ทำให้ตัวเองอ่อนแอ ว่างเปล่า หรือมองตัวเองในแง่ลบ แล้วหันกลับมาใช้เวลาเพื่อทำตัวเองมีความสุข
• ทิ้งความคิดที่ว่าทุกปัญหาเป็นปัญหา แล้วทุ่มพลังงานไปแก้เฉพาะปัญหาที่สำคัญจริง ๆ
• ความสามารถในการแก้ปัญหาเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะกำหนดความสุขในชีวิตได้
• ทิ้งการรับข้อมูลที่ไม่ผ่านการกรอง หันมารับข้อมูลด้วยความคิดที่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นจริงก่อน ถึงจะเชื่อได้
• ทิ้งการเลิกทำโอที หันมาทำโอที เพื่อจะพัฒนาความสามารถของตนเอง โดยยังรักษาสมดุลในชีวิตส่วนตัวและงานได้
• ทิ้งความสมบูรณ์แบบ แล้วหันมาลงมือทำทันที แม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบ แล้วค่อย ๆ ปรับให้สมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ
• ทิ้งการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานบริษัท หันมาพัฒนาความสามารถที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ แต่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเรา
• ทิ้งการทุ่มเทกับงานที่ไม่มีความสุข หันมาปกป้องชีวิตและจิตใจตัวเอง ด้วยการทำงานที่ตัวเองคิดว่าน่าสนุก
• ทบทวนตัวเองกับคำถามนี้อยู่เสมอ “ชีวิตตอนนี้สนุกดีไหม”
• ทิ้งความคิดว่าเกษียณเร็ว ๆ แล้วจะไม่ต้องทำงาน เปลี่ยนเป็นทำงานที่รักทำโดยไม่ต้องเกษียณ
• ทิ้งการยึดติดกับวิธีที่เคยทำสำเร็จในอดีต หันมาลองวิธีที่แตกต่างจากเดิม
• ทิ้งความอดทน จมอยู่กับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเราเองจริง ๆ แล้วหันมาใช้ชีวิตอย่างอิสระและสนุก
• ความสามารถคือสิ่งที่จะช่วยให้เราเลือกได้ว่าจะไม่ทำงานร่วมกับคนที่เกลียดหรือสถานที่ไม่มีความสุข
• ถ้าแต่ละวันผ่านไปโดยรู้สึกว่าเบื่อนั่นเป็นเพราะเรากำลังใช้ชีวิตให้ผ่านไปอย่างสูญเปล่า
• ทิ้งแนวคิดแบบสุดโต่ง แล้วหันมาคิดหลาย ๆ แง่มุมไว้เสมอ เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่ “ไม่ซ้ายก็ขวา”
• ทิ้งความอิจฉา แล้วยอมรับในจุดด้อยของตัวเอง นำมันเป็นแรงผลักดันให้เราดีขึ้น เก่งขึ้น เติบโตขึ้น
• ความอิจฉาทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ตกต่ำลง
• ทิ้งการพึ่งพาคนอื่น แล้วหันมารับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่าง 100%
• ทิ้งแนวคิด นกน้อยทำรังแต่พอตัว แล้วหันมาเชื่อว่าเราสามารถทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเพียรพยายามมากพอ
• ทิ้งความทุกข์ใจเรื่องปมด้อย แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังก้าวไปข้างหน้า
• ทิ้งเรื่องกังวลในอนาคต แล้วหันมาลงมือทำให้ความกังวลนั้นหายไป เช่น ฝึกซ้อมให้มากขึ้น พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น เตรียมตัวให้มากขึ้น
• ทิ้งการยึดติดกับความคิดตัวเอง แล้วหันมาเคารพความเห็นทัศนคติที่แตกต่าง และอย่าด่วนตัดสิน
• ทิ้งการตำหนิตัวเอง แล้วหันมาคิดวิเคราะห์และหาทางแก้ไข เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า
• การโทษแต่คนอื่นไม่ทำให้ตัวเองเติบโต และการเอาตำหนิตัวเองอย่างเดียวก็ยากที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
• ทิ้งความคิดที่ว่าโลกนี้อยู่ยาก เชื่อว่าโลกนี้ง่ายกว่าที่คิด แล้วเราจะมองเห็นแต่โอกาส และไม่ทนอยู่สภาพเดิม ๆ
• ทิ้งค่านิยมที่ว่าการศึกษามีเฉพาะในห้องเรียน หันมาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ พัฒนาด้วยตัวเอง และเปลี่ยนมันเป็นการลงมือทำ
• ทิ้งความคิดอยากได้อยากมี แล้วหันมาใช้ชีวิตไม่ใช่เพื่อคนอื่น แต่เพื่อให้เราพึงพอใจ